
“ภูมิธรรม” ชู 3 เสาหลักขับเคลื่อนงานพาณิชย์ ในงานสัมมนาหอการค้าไทยทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 เผยเตรียมเสนอแก้กฎหมาย 4 ฉบับ ลดอุปสรรคทางการค้าให้กับภาคเอกชน
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวระหว่างการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “พาณิชย์ยุคใหม่ การค้าไทยเชื่อมโลก” ในงานสัมมนาหอการค้าไทยทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 ว่า
- สินมั่นคงฯ : คปภ.เกาะติดกระบวนการฟื้นฟูกิจการ-ส่งสัญญาณเตือน ปชช.
- ครม.เคาะแล้ว ซื้อสินค้าลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 5 หมื่นบาท เริ่ม 1 ม.ค. 67
- พระราชทานอภัยโทษ คดีทักษิณ ที่มาวาระอันเป็นมงคล วโรกาสสำคัญ
โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งกฎระเบียบ เศรษฐกิจ เพื่อเตรียมรับมือกับสิ่งเหล่านี้ รัฐบาลพร้อมสนับสนุน เอื้ออำนวยสิ่งที่เป็นอุปสรรคทางการค้าให้ภาคเอกชนเพื่อเดินหน้าไปอย่างเข้มแข็ง โดยพาณิชย์ยุคใหม่ที่จะเชื่อมโลก เชื่อมเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ ๆ ผลักดันเพื่อสู้ความสำเร็จ
“แต่กฎระเบียบ กฎหมาย ที่รัฐได้ทำขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้เอกชนยังขาดการทบทวน ตรวจสอบ ปรับปรุงสิ่งที่เกิดขึ้น โดยปัญหาเหล่านี้ยืดเยื้อ เอือมระอา และเบื่อหน่าย แต่เป็นหัวใจสำคัญของภาคเอกชนที่จะสร้างรายได้เข้าประเทศ กฎระเบียบ ที่สร้างขึ้นมาอำนวยประโยชน์ แต่กลายเป็นพันธนาการตัวเอง เราควรที่จะแก้ไขทันที“
อย่างไรก็ดี ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีภารกิจในการส่งเสริมการค้า พัฒนาผู้ประกอบการและดูแลผู้บริโภค ซึ่งจะประสบความสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยภายในสิ้นเดือนธันวาคม 2566 นี้ เราจะสามารถประกาศแก้ไขกฎหมายและพระราชบัญญัติได้อย่างน้อย 4 ฉบับ ให้ผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) จากการศึกษาและทบทวน พร้อมหารือกับผู้บริหารกระทรวง ถึงการทบทวน ปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรค ให้เป็นประโยชน์กับภาคเอกชน อีกทั้งให้เกิดประโยชน์ต่อการทำการค้ารวม
ทั้งนี้ อะไรที่อยู่ภายใต้อำนาจของรัฐมนตรีเราดำเนินการได้เราจะแก้ไขเลย ถ้าหากยังไม่ใช่เราก็จะพยายามดูช่องทางในการเข้าไปแก้ไข ซึ่งจากที่ติดตามก็ยังมีในหลายส่วนยังขาดการเชื่อมโยงและวิเคราะห์ แต่แนวคิดของรัฐบาลชุดนี้ต้องการทำให้เป็นรัฐบาลดิจิทัลต้องเชื่อมโยงข้อมูลทั้งระบบเข้าด้วยกัน อย่างบัตรประชาชนใบเดียวสามารถเข้าไปรักษาได้ทั่วประเทศ โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน
ดังนั้น จำเป็นจะต้องมีการสร้างบิ๊กดาต้า หรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งประชาชน เอกชน ในการตัดสินใจการลงทุนทำธุรกิจ ที่จะเพิ่มขีดความสามารถ และพัฒนาตัวเองให้ก้าวทันโลกที่เปลี่ยนแปลง
นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า กระทรวงพาณิชย์มี 3 เสาหลัก ประกอบด้วย 1.การเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการผ่านกระบวนการเพิ่มทักษะ การให้การสนับสนุนเงินสินเชื่อ การสร้างเครือข่ายธุรกิจ การส่งเสริมนวัตกรรม ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการค้าและการลงทุน ซึ่งผมได้มอบนโยบายให้กับกระทรวงพาณิชย์ หากจะตั้งทีมไทยแลนด์ไม่ต้องรอ ตั้งก่อนเลย ภายใต้หน่วยงานของเรา ซึ่งเราพร้อมที่จะสร้างทีมพาณิชย์ให้เกิดขึ้น
2.การอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน โดยการแก้ไขกฎระเบียบ ถ้าทำได้เร็วก็จะปลดเปลื้องพันธนาการ พร้อมการบุกตลาด สร้างความน่าเชื่อถือ เร็ว ๆ นี้จะมีการเยือนรายประเทศ ทั้งในแอฟริกา ตะวันออกกลาง เอเชียกลาง หรือแม้กระทั่งกลุ่มอาเซียน ของนายกรัฐมนตรี เพื่อดึงการลงทุน
3.การพัฒนาระบบโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมการค้าและการลงทุนในภูมิภาคและตลาดโลก ผ่านการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและระดับโลก การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าและบริการของไทย
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเร่งผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ปัจจุบันประเทศไทยมี FTA อยู่แล้วทั้งหมดจำนวน 14 ฉบับ กับ 18 ประเทศ โดยตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนมูลค่าการค้ากับคู่ภาคี FTA ให้มากขึ้น จากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 61% ให้เพิ่มเป็น 80% ในปี 2570
และวันที่ 21-23 พฤศจิกายน 2566 นี้ นายกรัฐมนตรีได้เชิญเอกอัครราชทูต ทูตพาณิชย์จากทั่วโลก 58 แห่ง บีโอไอ พร้อมรับมอบนโยบาย การค้า การเชื่อมโยงของหน่วยงานต่างประเทศ หากไม่เกิดการร่วมมือเอกชนก็อาจจะเดินหน้าลำบาก “เราต้องเปลี่ยนรัฐอุปสรรคให้เป็นรัฐสนับสนุน” โดยต้องทำอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ดี แม้เราจะเป็นรัฐบาลต่างพรรค แต่จะไม่เหมือนกับรัฐบาลต่างพรรคเหมือนชุดอื่น ๆ ซึ่งเราสามารถร่วมมือพึ่งพาและแก้ไข พูดคุยและร่วมกันแก้ไขปัญหากันได้ ซึ่งให้ภาคเอกชนสบายใจได้ และจะเดินหน้า ทำทีมไทยแลนด์และทีมพาณิชย์ช่วยแก้ปัญหาทุกอย่างและพร้อมที่จะส่งเสริมภาคเอกชนอย่างเต็มที่