ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม จากการโจมตีเรือขนส่งน้ำมันในทะเลแดง ขณะตลาดคาดธนาคารกลางสหรัฐปรับลดอัตราดอกเบี้ยปีหน้า
วันที่ 27 ธันวาคม 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับเพิ่มมากกว่า 2% แตะระดับสูงที่สุดในเดือน ธ.ค. 66 จากสถานการณ์การหยุดชะงักของการขนส่งน้ำมันทางเรือในทะเลแดง ซึ่งยังคงมีการโจมตีเรืออย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อการขนส่งทางเรือทั่วโลกประมาณ 12% ซึ่งใช้เส้นทางเดินเรือผ่านเส้นทางดังกล่าว ขณะที่บริษัทเดินเรือรายใหญ่ของโลกหลายราย ได้เปลี่ยนเส้นทางการขนส่งและปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมในการเดินเรือจากเส้นทางเดินเรือที่ไกลขึ้น
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- ธุรกิจถอยสิ้นยุคกัญชาเสรี จ่อปิดหมื่นร้าน-สินค้าโบกมือลา
- เปิดค่าซ่อม “รถอีวี vs รถใช้น้ำมัน” แพงกว่ากันเท่าไร
ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุน จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังสถานการณ์เงินเฟ้อในสหรัฐบรรเทาลง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกำลังอ่อนค่าลง โดยวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 ธ.ค. 66) ได้ลดลงแตะระดับ 101.42 ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 5 เดือน ส่งผลให้น้ำมันที่ซื้อขายในสกุลเงินนี้มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น
นักวิเคราะห์คาดตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 22 ธ.ค. 66 จะปรับลดกว่า 2.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันดีเซลและเบนซินคงคลังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มที่ 1.0 และ 0.4 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ โดยสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) จะเปิดเผยตัวเลขในวันพุธนี้ (27 ธ.ค. 66)
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดตัวเลขส่งออกจากจีนในปีหน้ามีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันเบนซินยังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในอินโดนีเซียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือน ธ.ค. 66
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปทานที่เพิ่มสูงขึ้นจากการส่งออกของจีนและเกาหลี ขณะที่อุปสงค์จากตะวันตกยังคงทรงตัวในช่วงวันหยุดยาวสิ้นปี
โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 20 ธ.ค. 2566 อยู่ที่ 74.22 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.78 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 79.70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.47 เหรียญสหรัฐ
