เปิดโฉม รถอีวี E-VELOX 3400 เติมน้ำมันเครื่องบินแค่ 30 นาทีเสร็จ ลดคาร์บอนได้อีก

BAFS
BAFS

BAFS รุดหน้า ผลิตรถเติมน้ำมันอากาศยานอีวี “E-VELOX 3400” เติมน้ำมันเครื่องบินได้เร็วที่สุดในโลก ลดคาร์บอน 2 เท่า เริ่มใช้แล้วที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกับเที่ยวบิน การบินไทย TG 413 กรุงเทพ-สิงคโปร์

วันที่ 13 มีนาคม 2567 ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บาฟส์ (BAFS) เปิดเผยว่า BAFS นำรถเติมน้ำมันอากาศยานพลังงานไฟฟ้า EV Hydrant Dispenser แบบ High Flow รุ่น E-VELOX 3400 ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ผลิตโดย บริษัท บาฟส์ อินเทค จำกัด (BI) จากกลุ่มบริษัท BAFS group มาให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานเป็นครั้งแรกที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

โดยรถเติมน้ำมันอากาศยาน E-VELOX 3400 ผลิตขึ้นโดยนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% จึงไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากเครื่องยนต์ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถด้วยอัตราการไหลของน้ำมันแบบ High Flow 3,400 ลิตรต่อนาที ทำให้เป็นรถเติมน้ำมันอากาศยาน EV ที่สามารถให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานได้รวดเร็ว

ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล
ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล

นอกจากนี้ ด้วยขนาดกะทัดรัด คล่องตัว สามารถเติมน้ำมันด้วยระบบแรงดันแบบใต้ปีก (Underwing Refueling) ให้บริการกับเครื่องบินโดยสารทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ และด้วยอัตราการไหลที่รวดเร็วยังทำให้ตอบโจทย์การเติมน้ำมันเครื่องบินลำใหญ่ รวมถึงเที่ยวบินระยะไกลที่ต้องใช้น้ำมันปริมาณมาก โดยสามารถให้บริการได้เฉลี่ย 15-20 เที่ยวบินต่อการชาร์จไฟฟ้าเต็ม 1 ครั้ง

และสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 2.08 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ต่อการเติมน้ำมัน 10,000 ลิตร หรือ 85-90% เมื่อเทียบกับรถเติมน้ำมันอากาศยานที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันดีเซล

E-VELOX 3400 ช่วยยกระดับการเติมน้ำมันอากาศยานให้รวดเร็วยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับรถเติมน้ำมันอากาศยานพลังงานไฟฟ้า EV Hydrant Dispenser ระบบ Low Flow รุ่น E-VELOX 1300 แบบเดิมที่ปัจจุบันให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานสำหรับเที่ยวบินระยะสั้น ณ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง

ขณะที่ E-VELOX 3400 สามารถให้บริการการเติมน้ำมันสำหรับเที่ยวบินระยะไกลที่ต้องใช้น้ำมันมากกว่า 100,000 ลิตร โดยใช้เวลาเติมน้ำมันเพียง 30 นาที E-VELOX 3400 จึงสามารถตอบสนองการให้บริการ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้เป็นอย่างดี มีส่วนช่วยให้สายการบินสามารถทำเวลาในการเตรียมความพร้อมสำหรับเที่ยวบินถัดไป โดยเฉพาะเที่ยวบินที่มี Ground Time จำกัดได้

“BAFS พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการบิน สนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินระดับโลก (Aviation Hub) และสนับสนุนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สู่การเป็นสนามบินต้นแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Airport)

โดย บริษัท บาฟส์ อินเทค จำกัด มีแผนนำรถเติมน้ำมันอากาศยาน และรถให้บริการภาคพื้นภายในสนามบิน ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า รุ่นต่าง ๆ เสริมทัพให้บริการในสนามบินสุวรรณภูมิจำนวน 6 คันภายในปีนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกขั้นตอนในการให้บริการสอดรับกับ มาตรการลดก๊าซเรือนกระจกในภาคการบิน สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ผลักดันให้อุตสาหกรรมการบินก้าวเข้าสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ต่อไป” ม.ล.ณัฐสิทธิ์กล่าว