กัลฟ์ผงาดกำลังไฟฟ้าหมื่นเมก อีก 6 ปีทุ่มแสนล้านผุดโรงไฟฟ้าใหม่

แฟ้มภาพไม่เกี่ยวข้องกับข่าว
กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ ดันโรงไฟฟ้า SPP อีก 4 โรงเข้าระบบในปีนี้ คาดปี’67 กำลังผลิตพุ่ง 11,126 เมกะวัตต์ (MW) จากโรงไฟฟ้า IPP ทยอยแล้วเสร็จ พร้อมขยายธุรกิจก๊าซในเวียดนาม

 

นายรัฐพล ชื่นสมจิตต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการพัฒนาองค์กร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินงานว่า ในปีนี้บริษัทจะมีโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ (SPP) กำลังผลิตไม่เข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) อีก 4 โรง ส่งผลให้กำลังผลิตของกัลฟ์ฯอยู่ที่ระดับ 5,029 เมกะวัตต์ (MW) (จาก 28 โรงไฟฟ้าใน 9 จังหวัด ทุกประเภทเชื้อเพลิง) และยังได้มีการลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อป้อนโรงไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ในอนาคตบริษัทยังมองหาโอกาสพัฒนาในธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจอื่น ๆ ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ฟิลิปปินส์ โอมาน เวียดนาม เพิ่มเติมอีกด้วย

ทั้งนี้ภายในปี 2567 กำลังผลิตไฟฟ้าโดยรวมของบริษัทกัลฟ์ฯจะเพิ่มเป็น 11,126 เมกะวัตต์ โดยหลัก ๆ กำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นมาจากโรงไฟฟ้า IPP รวม 5,000 เมกะวัตต์ รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้า SPP และจากพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ และคาดว่ากำลังผลิตใหม่ที่จะเกิดขึ้นตามเป้าหมายกว่า 10,000 เมกะวัตต์ ต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 120,000 ล้านบาท ซึ่งกัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ ได้เตรียมความพร้อม โดยร่วมมือกับทุกสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศไว้เรียบร้อยแล้ว

“ตอนนี้เรามีโครงการที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจากนี้กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ จะต้องมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ เพราะในประเทศยังไม่มีความชัดเจนว่าจะรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มอีกหรือไม่ และเรามองไปที่ธุรกิจอื่น ๆ อย่างเช่น ก๊าซธรรมชาติอีกด้วย” นายรัฐพลกล่าว

ส่วนการเตรียมการเพื่อขยายธุรกิจก๊าซธรรมชาติเพื่อรองรับความต้องการใช้ ซึ่งจะดำเนินการวางท่อก๊าซไปยังโรงงานของลูกค้าโดยเฉพาะในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 2 แห่งที่จะเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการภายในปีนี้ รวมถึงเตรียมจะใช้รูปแบบเดียวกันนี้กับการลงทุนในประเทศเวียดนามด้วย

สำหรับผลประกอบการของบริษัทกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ในไตรมาส 1/2561 ปรากฏบริษัทมีรายได้จากการขาย 3,360.6 ล้านบาท จากการขายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ.และรายได้จากการขายไฟฟ้าและไอน้ำให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม จากโครงการโรงไฟฟ้าภายใต้กลุ่ม GMP ที่ทยอยเปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์จํานวน 6 โครงการ โดย 5 โครงการ ได้แก่ GVTP, GTS1, GTS2, GTS3 และ GTS4 ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,165.5 ล้านบาท