นบข.อนุมัติ 3โครงการช่วยเหลือชาวนาในฤดูกาลผลิต 2561/62 คาดเริ่มโครงการเร็วๆ นี้

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว ครั้งที่ 3/2561 ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุม นบข.ได้เห็นชอบมาตรการ ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2561/62 ด้านการตลาด 3 โครงการ ได้แก่ โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกและการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพ โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าว และสร้างมูลค่าเพิ่ม และโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก

สำหรับโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกและการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพ โดยให้สินเชื่อเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรเพื่อชะลอการจำหน่ายผลผลิตข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกเหนียว ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกปทุมธานี1 ในเขตพื้นที่เพาะปลูกทุกจังหวัดเป้าหมาย 2 ล้านตันข้าวเปลือก ให้ค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท โดยจ่ายพร้อมสินเชื่อก่อนตันละ 1,000 บาท และภายหลัง 500 บาท ส่วนค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว จะให้เฉพาะเกษตกรรายย่อยที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยช่วยตามพื้นที่ปลูกข้าวจริงไร่ละ 1,500 บาท ไม่เกิน 12 ไร่ หรือไม่เกินครัวเรือนละ 18,000 บาท

โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าว และสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยจะให้สินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกร รวบรวมข้าวเปลือกเพื่อจำหน่ายหรือแปรรูป เป้าหมาย 2 ล้านตัน ซึ่งรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 และสถาบันเกษตรกรรับภาระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1 ระยะเวลา 1 ตุลาคม 2561 ถึง 31 ธันวาคม 2562 และ โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก รัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยใหเร้อยละ 3 ทั้งนี้โรงสีจะต้องรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรในช่วง 1 พฤศจิกายน 2561 – 31 มีนาคม 2562 และภาคใต้รับซื้อช่วง 1 มกราคม -30 มิถุนายน 2562

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์และทิศทางการส่งออกข้าวของไทยที่ยังมีแนวโน้มที่ดี โดยได้มีการส่งมอบข้าวตามสัญญาการซื้อขายกับต่างประเทศอย่างต่อเนื่องทั้งจีน ที่อยู่ระหว่างการเจรจาส่งมอบข้าวงวดที่ 6 อีก 1 แสนตัน รวมถึงการส่งมอบข้าวให้กับประเทศฟิลิปินส์ นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบผลการดำเนินงานมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2560/2561 ด้านการตลาด เพื่อดูดซับข้าวออกจากตลาดให้ได้ 6.64 ล้านตัน ซึ่งส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกปรับสูงขึ้นโดยเฉพาะราคาข้าวหอมมะลิอยู่ที่ตันละ 15,500-18,500 บาท ส่วนปริมาณข้าวคงเหลือข้าวในสต๊อกปัจจุบันมีปริมาณกว่า 7 หมื่นตัน ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถนำออกมาระบายเข้าสู่อุตสาหกรรมได้ในเดือนกันยายนนี้