กบง.ยังชดเชย LPG ให้คงราคาขาย 363 บาทต่อถัง 15 กก.

กบง.ยังชดเชย LPG ให้คงราคาขาย 363 บาทต่อถัง 15 กก. เพื่อช่วยเหลือและลดค่าครองชีพให้ประชาชน ขณะที่ การใช้ B20 ยังไปได้ดี มีการใช้เพิ่มขึ้นกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ คาดว่าจะมีการใข้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า สำหรับความเคลื่อนไหวราคาก๊าซ LPG ในรอบเดือนกรกฎาคม 2561 ราคา LPG ตลาดโลก (CP) เดือนสิงหาคม 2561 อยู่ที่ 587.50 เหรียญสหรัฐต่อตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 25.00 เหรียญสหรัฐต่อตัน (เดือนกรกฎาคม 2561 อยู่ที่ 562.50 เหรียญสหรัฐ/ตัน) ขณะที่โครงสร้างราคาก๊าซ LPG รายสัปดาห์ของเดือนกรกฎาคม 2561 ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อผู้บริโภค กบง. ได้มีมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกโดยการชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้ราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนขนาดถัง 15 กก.อยู่ที่ 363 บาท ตลอดทุกสัปดาห์ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังหารือถึงความก้าวหน้าการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชนจากค่าบริการขนส่งและค่าโดยสารรถสาธารณะ รวมทั้งเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มดิบล้นตลาด และสร้างเสถียรภาพปาล์มน้ำมัน ว่า มีผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ที่เข้าร่วมโครงการและได้รับความเห็นชอบให้จำหน่าย B20 ได้จำนวน 5 ราย ได้แก่ ปตท. บางจาก ไออาร์พีซี ซัสโก้ พี.ซี.สยามปิโตรเลียม รวมปริมาณ 5.38 ล้านลิตรต่อเดือน และล่าสุดปริมาณจำหน่าย B20 ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม – 6 สิงหาคม 2561 พบว่า มีปริมาณรวม 1.31 ล้านลิตร โดยใช้เงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประมาณ 4.14 ล้านบาท

ส่วนสถานการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของประเทศ (Peak Demand) ที่ประชุมฯ รับทราบ สรุปความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนสร้างโรงไฟฟ้า ระบบสายส่ง ระบบสายจำหน่าย รองรับความต้องการฟ้าสูงสุดที่จะเกิดขึ้น ซึ่งปกติความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด ส่วนใหญ่อยู่ช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อน

สรุปพีคไฟฟ้าของปี 2561 แบ่งเป็น 3 ระดับ
1. ความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุดของประเทศ จากระบบ กฟผ. รวมกับข้อมูลการประเมินจากพีค ไฟฟ้าของผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กมาก (VSPP) และผู้ผลิตไฟฟ้าใช้เอง/ขายตรง (ผู้ผลิตเอกชน และSPPขายตรง) ซึ่งพีค เกิดขึ้นเมื่อ วันอังคารที่ 24 เมษายน 2561 เวลา 13.51 น. อยู่ที่ระดับ 34,317 เมกะวัตต์ มีค่าสูงกว่าพีคของปีก่อน โดยเพิ่มขึ น 0.6% 2. ความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุดในระบบ และ3 การไฟฟ้า เกิดขึ้นเมื่อ วันอังคารที่24 เมษายน 2561 เวลา 13.51 น. อยู่ที่ระดับ 29,968 เมกะวัตต์ ต่ำกว่าพีคปีก่อน โดยลดลง 1.1%