ประชาชนหวั่นฝุ่นละอองลากยาวอีก 3 เดือน สร้างความเสียหายกว่า 4 หมื่นล้านบาท

หอการค้าไทยเผยการสำรวจปัญหาฝุ่นละอองจะลากยาวต่อไปอีก 3 เดือน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และเม็ดเงินที่สูญเสียจากการซื้ออุปกรณ์ป้องกันฝุ่นมากขึ้น คาดมากถึง 4 หมื่นล้านบาท

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน กรณีวิกฤตปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา พบว่าประชาชนมีความกังวลถึงสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองอาจจะยืดเยื้อไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2562 จากเดิมที่คาดว่าจะยุติลงได้ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยที่ผ่านมาประชาชนมีค่าใช้จ่ายจากการซื้ออุปกรณ์ป้องกันปัญหาฝุ่นเฉลี่ยคนละ 594 บาทต่อเดือน แต่หากปัญหายืดเยื้อออกไปถึง 6 เดือน หอการค้าไทยคาดว่าค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น เฉลี่ยต่อคนเป็น 802 บาทต่อเดือน หรือรวม 6 เดือน มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 4,812 บาทต่อคน

สำหรับค่าใช้จ่ายที่ประชาชนซื้ออุปกรณ์ป้องกันฝุ่นละออง เพื่อดูแลสุขภาพอนามัย เช่น ซื้อหน้ากากอนามัย และซื้อสินค้าที่ดีมีคุณภาพเพื่อดูแลตัวเอง นอกจากนี้ หอการค้าไทยยังประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม กรณีฝุ่นละออง หากวิกฤตฝุ่นละอองคลี่คลายลงได้ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2562 นี้ มูลค่าความเสียหายจะอยู่ระหว่าง 8,000-10,000 ล้านบาท จากภาระค่าใช้จ่ายในการซื้อหน้ากากอนามัย ค่ารักษาพยาบาลของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้และโรคระบบทางเดินหายใจ

นอกจากนี้ยังมี การสูญเสียเงินตราต่างประเทศจากการนำเข้าหน้ากากรุ่น N95 การสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวที่ประชาชนลดลง และการสูญเสียงบประมาณของรัฐในการป้องกันปัญหาดังกล่าว แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2562 นี้ คาดว่ามูลค่าความเสียหายอาจจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10,000 – 15,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือเสียหายรวม 20,000 – 40,000 ล้านบาท ซึ่งก็คาดหวังว่าปัญหาจะคลี่คลายโดยเร็ว