รายงานข่าวจากภาคเอกชนในภาคอุตสาหกรรม แจ้งว่า ขณะนี้บรรยากาศการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลบวกกับมีประเด็นเรื่องการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้เห็นต่างทางการเมืองหลายคดี ทำให้ภาคเอกชนกังวลว่าช่วง 2 เดือน คือ เมษายน-พฤษภาคม 2562 ระหว่างที่รอรัฐบาลใหม่จะเกิดความอึมครึมอาจเสี่ยงเกิดความวุ่นวายทางการเมืองได้ โดยเฉพาะหลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ประกาศผลอย่างเป็นทางการวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ ขณะนี้ภาคเอกชนจึงพยายามสื่อสารถึงความกังวลดังกล่าวออกไปเพื่อให้ทุกฝ่ายรับฟัง และให้ผู้อำนาจดำเนินการแก้ปัญหาด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม นอกจากนี้ภาคเอกชนยังทยอยปรับลดตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้(จีดีพี)กันถ้วนหน้า เพราะกังวลว่าจะกระทบทั้งการใช้จ่ายของประชาชน และการลงทุนของภาคเอกชนแน่นอน
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ทั้งส.อ.ท. และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคาร ต่างมีความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันหลังการเลือกตั้งที่ไม่มีความชัดเจนว่าฝ่ายใดจะได้จัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการ โดยล่าสุดกกร.ได้ปรับลดตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย(จีดีพี)ปีนี้เหลือ 3.5-4% จากเดิมคาดว่าจะเติบโตในระดับ 4-4.5% เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความกังวลให้คนไทยทั้งประเทศ
- มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล เปิดชื่อผู้ถือหุ้น-ผลประกอบการ
- เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนพฤษภาคม 2567 เงินเข้าวันไหน เช็กที่นี่
- เช็กที่นี่ เบี้ยผู้สูงอายุ พฤษภาคม 2567 เงินเข้าวันไหน
แหล่งข่าวจากกกร.กล่าวว่า หากการเมืองมีปัญหา ไม่สงบลุกลามจนบานปลาย จะกระทบต่อความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจระยะต่อไปได้ จึงเห็นว่าทุกฝ่ายควรรอให้ผ่านพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และกกต. ประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ก่อน หากพบว่ามีปัญหาการร้องเรียนประเด็นใด ค่อยมาเรียกร้องตามขั้นตอนตามกฏหมาย
ที่มา:มติชนออนไลน์
