“เจ้าสัว” สั่งลา CPFลุยลงทุน ปรับทัพ 5 ปี “โตนอกประเทศ”

จับตา CPF เปลี่ยนผ่านโครงสร้าง หลังเจ้าสัวลาออกประธานบอร์ด ตั้ง 5 ตำแหน่ง ดึง “สุภกิต เจียรวนนท์” ยืนหนึ่งกรรมการใหม่ อัดงบฯ 11,800 ล้าน ซื้อ HyLife Investments ลุยธุรกิจสุกรครบวงจร ตั้งเป้า 5 ปี โตนอกประเทศ

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การขยับของเจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) บิ๊กธุรกิจเกษตรฟีด-ฟาร์ม-ฟู้ด ถือว่าสร้างแรงกระเพื่อมในวงการเกษตรอาหารไม่น้อย เริ่มจากการขยายการลงทุนนอกประเทศ 2 จุด คือ แคนาดา และเวียดนาม โดยเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2562 ทางซีพีเอฟแจ้งว่า CPF Canada Holdings Corp. บริษัทย่อยทำสัญญาซื้อหุ้นทั้งหมดของ HyLife Investments Ltd. (HIL) ซึ่งถือหุ้นใน HyLife Group Holding Ltd. (HyLife) สัดส่วน 50.1% ของหุ้นทั้งหมด คิดเป็นมูลค่า 11,845 ล้านบาท โดยคาดว่าดีลนี้จะสมบูรณ์ภายใน 8 เดือน จากนั้นจะมีชื่อใหม่เป็น CPF Canada Holdings Corp.

ทั้งนี้ HyLife ประกอบธุรกิจสุกรครบวงจร มีโรงงานแปรรูป 3 โรงงานในแคนาดา 1 โรงงาน และเม็กซิโก 2 โรงงาน และมี Itochu Corporation เป็นผู้ร่วมทุน เน้นการผลิตเพื่อส่งออก 90% โดยตลาดเนื้อสุกรแช่เย็นหลัก คือ ญี่ปุ่น ดังนั้น การลงทุนนี้ทำให้สามารถเปิดตลาดญี่ปุ่น และขยายสู่ทวีปอเมริกาเหนือในอนาคต

พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติให้ C.P. Vietnam Corporation (CPV) บริษัทย่อยทางอ้อมของ CPF เข้าซื้อหุ้น AHM Lifestyles-Creative Hospitality Co., Ltd. (AHM) ในเวียดนาม ทำธุรกิจร้านอาหาร คิดเป็น 70% ของทุนจดทะเบียนของ AHM มูลค่า 33.3 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจร้านอาหารเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าเนื้อสัตว์ สเต็ปต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนผู้บริหาร โดยวันที่ 24 เมษายน 2562 นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่ามีภารกิจมากขึ้น ไม่มีเวลาปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ตามมาด้วยการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 นั้น ซึ่งมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล ปี 2561 หุ้นละ 0.65 บาท และการอนุมัติแต่งตั้งกรรมการ 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย 1) นายชิงชัย โลหะวัฒนะกุล 2) นายอดิเรก ศรีประทักษ์ 3) นายพงษ์ วิเศษไพฑูรย์ ที่หมดวาระไปให้กลับเข้าเป็นกรรมการอีกวาระหนึ่ง 4) นายวินัย วิทวัสการเวช เป็นกรรมการอิสระ และ 5) นายสุภกิต เจียรวนนท์ (บุตรชายคนโตของนายธนินท์) เป็นกรรมการ

นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ทิศทางการเติบโตของซีพีเอฟ ในอีก 5-6 ปีข้างหน้า จะเติบโตจากกิจการต่างประเทศเป็นหลัก จากปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 67% และในประเทศ 33%

ส่วนในปีนี้มั่นใจว่าภาพรวมผลการดำเนินงานจะเติบโตกว่าปีก่อน โดยจะเห็นว่าไตรมาส 1/2562 เริ่มเห็นทิศทางที่ดี ราคาสุกรปรับตัวดีขึ้นหลังจากปริมาณหมูทั่วโลกลดลงจากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (AFS) ในเอเชีย ส่งผลกระทบต่อผลผลิตสุกรในจีนเสียหายจนต้องนำเข้าแทน ส่งผลให้ราคาสุกรจากแหล่งต่าง ๆ ขยับขึ้นทั่วโลกรวมถึงแหล่งผลิตของซีพีเอฟด้วย