พาณิชย์เผยที่ประชุมอนุกรรมการฯ เคาะมาตรการดูแลยา ชง กกร. 10 พ.ค.นี้

พาณิชย์เผยที่ประชุมอนุกรรมการฯเคาะมาตรการดูแลยา ชง กกร. 10 พ.ค.นี้ มาตรการที่เสนอปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน พร้อมตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลเวชภัณฑ์ ค่าบริการเป็นตัวต่อไป

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณามาตรการกำกับดูแลยาและเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาข้อมูลที่คณะทำงานศึกษาโครงสร้างต้นทุนโดยเฉพาะยาที่ได้ขอข้อมูลจากสถานพยาบาลกว่า 353 แห่งมาพิจารณา ซึ่งได้ศึกษา วิเคราะห์อีกทั้งเปรียบเทียบข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยอมรับว่าสถานพยาบาล โดยเฉพาะเอกชนมีต้นทุนยาที่แตกต่างกัน แต่ก็เป็นราคาใกล้เคียงกัน ซึ่งการซื้อยามานั้นไม่ได้สูงมาก แต่การจำหน่ายให้กับผู้เข้าการรักษาอาจจะแตกต่างกันมาก แม้จะเป็นยาชนิดเดียวกันโดยมีกำไรตั้งแต่ไม่มากจน กระทั่งสูงถึงระดับ 300%, 500%, 800% และ 900% ก็มี

ทั้งนี้ รายการยาที่นำมาวิเคราะห์ ได้ยึดตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิทุกที่ (UCEP) ที่มีรายการยาที่จำเป็นอยู่ 3,892 รายการ จากบัญชีข้อมูลรายการยาและรหัสยามาตรฐานของไทย (TMT) ที่มีอยู่ 30,103 รายการ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่พิจารณากันในวันนี้ คณะอนุกรรมการฯพิจารณาโดยใช้หลักการที่เป็นธรรมและไม่เอาเปรียบทั้งสถานพยาบาลและผู้ป่วย และต้องมีเหตุผล ซึ่งหลักการเบื้องต้นที่ได้จากหลังการประชุมก็จะนำมาตรการเสนอให้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) พิจารณาในวันที่ 10 พ.ค.2562 นี้

เพื่อที่จะเป็นมาตรการที่จะนำออกมาใช้ภายใต้กฎหมายที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีอยู่ ทั้งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ มีพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ที่สามารถกำหนดให้มีการปิดป้ายแสดงราคา หากมีการจำหน่ายเกินราคา ก็จะมีโทษตามกฎหมาย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ได้รับรายงานก็ยังขาดข้อมูลเกี่ยวกับรายการเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ ที่ประชุมเห็นชอบให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อไปพิจารณาจัดทำฐานข้อมูลให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับข้อมูลยาที่มีอยู่ โดยปัจจุบันมีข้อมูลเวชภัณฑ์ประมาณ 868 รายการ และบริการทางการแพทย์ 5,286 รายการ

นพ.ประมุกข์ ทรงจักรแก้ว ประธารคณะกรรมการที่ปรึกษาสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวว่า สมาคมประกันชีวิตเห็นด้วยกับมติที่ออกมา เพราะถือว่าเป็นทิศทางที่ดีในการคุ้มครองผู้บริโภค เพราะที่ผ่านมา มีข้อร้องเรียนเรื่องค่ารักษาพยาบาลเกินความจำเป็น ทำให้เบี้ยประกันชีวิตสูง ซึ่งถ้าเบี้ยประกันมีความเหมาะสม ข้อดือคนไทยสามารถเข้าถึงประกันชีวิตได้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาไม่มีโครงสร้างของราคายาทำให้ค่ายาที่ทางโรงพยาบาลคิดมาค่อนข้างสูงเพราะไม่มีโครงสร้างของยาให้เปรียบเทียบ แต่ถ้ามีการทำโครงสร้างยาเป็นเกณฑ์อ้างอิงก็ทำให้เราสามารถดูเป็นมาตรฐานได้ ที่และอยากให้มีการแยกรายการค่ายาและค่ารักษาพยาบาลออกจากเพื่อให้มีความชัดเจน