สภาผู้ส่งออกฯลุ้นอีกเฮือก ใช้ผลไม้ดันยอดส่งออกQ2

สภาผู้ส่งออกคาดการณ์ผลผลิตผลไม้ทะลักดันยอดส่งออกไตรมาส 2 พัน ลบ. เตรียมหารือทูตพาณิชย์ปลายเดือน พ.ค. 62 ทบทวนเป้าหมายส่งออกปีེ อีกครั้ง

นางสาวกัญญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก เปิดเผยว่า สภาผู้ส่งออกประเมินการส่งออกไตรมาส 2 ของปี 2562 ขยายตัวในกรอบ 0-1% เป็นผลมาจากช่วงนี้เป็นช่วงผลผลิตผลไม้ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก เช่น ทุเรียน มังคุด มะม่วง ประกอบกับประเทศผู้นำเข้ามีความต้องการมาก โดยเฉพาะจีนคาดว่าจะทำให้การส่งออกในช่วงนี้ขยายตัวเป็นบวก โดยคาดการณ์ว่าเฉลี่ยการส่งออกต่อเดือน 20,000 เหรียญสหรัฐน่าจะทำได้

ขณะที่สินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมอาจต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นผลจากสภาพเศรษฐกิจของประเทศผู้นำเข้า ประกอบกับการส่งออกปีที่ผ่านมาขยายตัว

เมื่อเทียบกับปีนี้อาจจะติดลบ ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยเศรษฐกิจในต่างประเทศที่กระทบต่อการส่งออก แต่อย่างไรก็ดี ในระยะยาวประเทศไทยจำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับสภาพการค้าในปัจจุบันให้มากที่สุด เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า นอกจากนี้ต้องขยายตลาดเดิมให้มากขึ้น เพื่อรองรับความผันผวนทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ตลาดในกลุ่มอาเซียนยังคงเป็นช่องทางสำคัญในการส่งออกสินค้า นอกจากนี้ ทางสภาผู้ส่งออกยังเตรียมที่จะเข้าหารือกับรัฐบาลชุดใหม่ภายหลังจากการจัดตั้งอย่างเป็นทางการแล้วเพื่อหารือผลักดันการส่งออกในช่วงที่เหลือต่อไป

ส่วนสถานการณ์อัตราค่าระวางจากเอเชียไปยังตลาดสำคัญในเดือนเมษายน พบว่า อัตราค่าระวางมีการปรับตัวลดลงในหลายเส้นทาง (ตามตาราง) เป็นผลจากราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส เฉลี่ยในตลาดโลกปรับตัวลดลง 63.71 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากก่อนหน้านี้ 66.60 เหรียญสหรัฐ และราคาล่าสุดเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมลดลงต่อเนื่องเหลือ 60-61 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เตรียมจัดประชุมร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ทั่วโลกในปลายเดือนพฤษภาคม 2562 เพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกไตรมาส 2 ของปี 2562 และพิจารณาทบทวนเป้าหมายการส่งออกทั้งปี 2562 อีกครั้ง เพื่อให้สะท้อนความเป็นจริงมากที่สุด จากปัจจุบันที่ตั้งเป้าหมายการส่งออกทั้งปี ขยายตัว 8% ซึ่งระหว่างนี้กรมสั่งการให้ทูตพาณิชย์ทั่วประเทศรวบรวมข้อมูลการนำเข้าสินค้าไทยและสินค้าต่างประเทศของประเทศผู้นำเข้า เพื่อสรุปข้อมูล เพื่อจัดทำแผนกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากที่สุด

“หลังจากไทยสามารถเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลได้เรียบร้อย เชื่อว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งนโยบายการผลักดันการค้า การส่งออกจะชัดเจนมากขึ้น จะส่งผลดีต่อการส่งออก กรมจะเดินหน้าส่งเสริมการค้าการส่งออกไปได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้”