เช็คสต๊อกข้าวเหนียวด่วน! พบกักตุน ฉวยโอกาสขึ้นราคา เจอคุก 5-7 ปี

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตนได้มอบหมายกรมการค้าภายในนำ พ.ร.บ.การค้าข้าว ที่มีอยู่แล้ว ออกประกาศให้ผู้ที่อยู่ในระบบการค้าข้าวเหนียวทั้งโรงสี และผู้ส่งออก แจ้งปริมาณสต๊อกข้าวเหนียว ส่งมาที่กรมการค้าภายใน ภายในวันพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) เพื่อตรวจสอบการกักตุน และการฉวยโอกาสขึ้นราคาข้าวเหนียวหรือไม่ ซึ่งหากพบผู้ไม่แจ้งสต๊อก จะดำเนินการการตามขั้นตอนทางกฎหมาย มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนหากพบการกักตุน และฉวยโอกาสขึ้นราคาเกินสมควร มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้บริโภคข้าวเหนียว จากราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ยที่กิโลกรัมละ 45-50 บาท อยู่ระหว่างการหารือแนวทางการจัดทำข้าวเหนียวบรรจุถุง ออกมาจำหน่ายในราคาพิเศษ แต่คาดว่าจะทำในปริมาณไม่มากนัก เพราะปัญหาน่าจะเกิดในระยะสั้นเท่านั้น ส่วนจะดำเนินการอย่างไร ปริมาณเท่าไร หรือการจำหน่ายเป็นอย่างไรนั้นได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในเป็นผู้ดำเนินการและประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง

ขณะที่นโยบายประกันรายได้ปาล์มน้ำมันและข้าวที่รัฐบาลออกมาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เริ่มส่งสัญญาณดี โดยเฉพาะราคาสินค้าปาล์มน้ำมัน ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์เตรียมจะนำมาตรการการดูแล นโยบายประกันรายได้เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) เพื่อพิจารณา ในการประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน ราคาประกันที่ 4 บาทต่อกิโลกรัม ที่เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 18% ส่งผลให้ราคาผลปาล์มน้ำมันของเกษตรกร ขณะนี้ ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ยกิโลกรัมละ 3.20 บาท จากก่อนหน้านี้ อยู่ที่กิโลกรัมละ 2 บาทกว่า

ทั้งนี้ หากการประกันรายได้ชาวสวนปาล์มผ่านความเห็นชอบจาก ครม. คาดว่าจะเริ่มจ่ายเงินประกันส่วนต่างราคาผลปาล์มให้กับเกษตรกร ในงวดแรกได้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 นี้ แต่เกษตรกร จะต้องไปขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร และให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เพื่อรับการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่าง ซึ่งรัฐบาลจะโอนจ่ายเข้าสู่บัญชีเกษตรกรโดยตรง ผ่าน ธ.ก.ส.ที่กำหนดจ่ายทุกๆ 45 วัน