นายสำเริง แสงภู่วงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการเฉพาะกิจได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 11 หน่วยงาน เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2562 ถึงแนวโน้มทิศทางและผลกระทบจากพายุ “โพดุล” เพื่อวางแผนในการบริหารจัดการน้ำว่า วันนี้ (30 ส.ค.2562) พายุลูกนี้ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดฝนตกหนักในเขตอีสานตอนกลาง เช่น จังหวัดมหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ลำน้ำยังในเขต อ.เสลภูมิ และ อ.โพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด จะมีน้ำล้นตลิ่งอีกครั้ง และพรุ่งนี้จะเคลื่อนเข้าสู่ภาคเหนือตอนบนต่อไป ขณะเดียวลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จากทะเลอันดามันที่มีกำลังแรง จะทำให้เกิดฝนตกหนักในจังหวัดพังงา ระนอง ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรีบางส่วน
คาดว่าพายุลูกนี้ จะทำให้น้ำล้นอ่างขนาดกลาง (ขนาด 2-100 ล้านลบ.ม.) ประมาณ 10 แห่ง ในส่วนภาคอีสาน น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์จะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก ที่สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษที่มีปัญหาภัยแล้งมาก พายุลูกนี้จะช่วยเติมน้ำได้บางส่วน อ่างห้วยเสนง คลายวิกฤตมีน้ำพอสมควรแล้ว ขณะที่เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ จะได้น้ำเพิ่ม แต่ก็ยังน้อยอยู่ ซึ่งวันจันทร์ที่ 2 ก.ย.นี้ จะประชุมร่วมกันเพื่อประเมินผลอีกครั้ง ว่าถึงเดือน พ.ย.นี้จะมีน้ำเพิ่มได้เท่าใด
“หากสถานการณ์ยังเป็นอยู่เช่นนี้ ไม่มีพายุเข้ามาอีก คงจะได้น้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคเท่านั้น ไม่เพียงพอในการป้อนภาคเกษตร 16 จังหวัดที่ยังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้จากภัยแล้ง ส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสาน ภาคเหนือ ปีหน้าก็จะประสบปัญหานี้อีก แม้ว่าปลายเดือน ก.ย.-ต้นต.ค.นี้ ยังมีฝนตกในภาคอีสาน ภาคเหนือและภาคกลาง”
