ไม่น่าได้อ้อย 1,000 บ./ตัน ชาวไร่โอดขอรัฐช่วยตามที่หาเสียงไว้ “สุริยะ” ช่วยได้ไม่ต่ำกว่า 900 บ./ตัน

นายเลียบ บุญเชื่อง ประธานชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน เปิดเผยหลัง เข้าพบนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ว่า จากที่คาดการณ์ว่าปริมาณอ้อยฤดูการผลิต 2562/2563 จะต่ำกว่าปี 2561/2562 จากภาวะฝนทิ้งช่วง ราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกตกต่ำ บวกกับค่าเงินบาทที่แข็ง ส่งผลกระทบต่อราคาอ้อยในฤดูการผลิตที่จะถึง หรือค่าอ้อยขั้นต้นจะอยู่ที่ไม่เกิน 700 บาท/ตัน ดังนั้นทางสมาคมฯ จึงขอให้รัฐช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อย ให้ได้ค่าอ้อยขั้นต้นที่ 1,000 บาท/ตัน ที่ค่าความหวาน 10 CCS ตามที่ได้เคยหาเสียงไว้

เนื่องจากต้นทุนการปลูกอ้อยแท้จริงอยู่ที่ 1,226 บาท/ตัน ทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยขาดทุนมานานกว่า 3 ปี จึงต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ และให้ยืดระยะเวลามาตรการปัญหาอ้อยไฟไหม้ออกไปเป็น 5 ปี จากเดิม 3 ปี เนื่องจากเกษตรกรมีต้นทุนที่สูงในการตัดอ้อยสด 500 บาท/ตัน และหากจะลงทุนด้านเครื่องจักรก็มีราคาสูง ซึ่งราคาอ้อยที่ตกต่ำยังไม่เป็นแรงจูงใจที่จะทำให้ทั้งเกษตรกรรายย่อย และรายใหญ่ลงทุนเครื่องจักรที่มีมูลค่าสูงเพื่อตัดอ้อยสด

นอกจากนี้ ยังขอให้ทบทวนการแบน 3 สารเคมี พาราควอต คลอร์ไพริฟอส ไกลโฟเซต ออกไปก่อน 2 ปี เพื่อให้เกษตรกรปรับตัวและทำความเข้าใจกับสารเคมีใหม่ที่จะเข้าทดแทน ซึ่งราคาสารเคมีทดแทนควรจะต่ำกว่าที่ขายในปัจจุบันหรือราคาเท่ากัน เกษตรกรจึงจะรับ

“เรื่องของ 3 สารนั้นควรที่จะมีวิธีการควบคุม จากนั้นค่อยทยอยลด เพราะถ้ายกเลิกในวันที่ 1 ธ.ค. เกษตรกรจะไม่ไหว นอกจากนี้ข้าราชการต้องอบรมให้ความรู้กับเกษตรกรด้วย”

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้รับข้อเสนอจากกลุ่มชาวไร่อ้อยเรียบร้อยแล้ว และยืนยันว่าจะดูแลราคาอ้อยไม่ให้ต่ำกว่า 900 บาท/ตัน ซึ่งอาจจะต่ำกว่าช่วงที่เคยหาเสียงเอาไว้ 1,000 บาท/ตัน เพราะช่วงเวลาดังกล่าวค่าเงินไม่ได้แข็งค่ามาก แต่ขณะนี้ค่าเงินแข็งค่าลงมากทำให้กระทบต่อ มูลค่าการส่งออกน้ำตาลทรายไปยังตลาดโลกลดลงส่งผลกระทบต่อราคาอ้อยขั้นต้นตามมา สำหรับเงินช่วยเหลือปัจจัยการผลิต เบื้องต้นจะของบกลางจากงบประมาณปี 2563 วงเงิน 6,500 ล้านบาท เพื่อมาช่วย