จุรินทร์ เคาะ 9 มาตรการดันค้าชายแดน ผ่านแดนหวังกระตุ้นส่งออก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมบูรณาการเพื่อยกระดับ SMEs ระดับภูมิภาค (ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันที่จะร่วมมือขับเคลื่อนการส่งออกของไทยไปในกลุ่มประเทศ CLMV ประกอบด้วย ลาว กัมพูชา พม่า เวียดนาม ด้วยแผนผลักดัน 9 มาตรการสำคัญในการส่งออกในปี 2563 นี้ โดยจะร่วมมือกับนักธุรกิจท้องถิ่นที่มีโอกาสและศักยถาพ อีกทั้ง ที่หาช่องทางการค้า การส่งออก โดยเชื่อว่าจะทำให้การค้า การส่งออก การค้าขายแดนและผ่านแดนขยายตัวได้
สำหรับแผนผลักดันผ่าน 9 มาตรการ เช่น มอบปลัดกระทรวงพาณิชย์ ดูกระบวนการส่งออกทั้งระบบ ทั้งชายแดนและผ่านแดนที่ยังมีปัญหาอุปสรรค กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับเอกชนที่มีศักยภาพออกไปโรดโชว์ในกลุ่ม CLMV พร้อมเน้นลงตลาดเมืองรองที่มีศักยภาพ จัดกิจกรรมจับคู่เจรจาทางธุรกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน เร่งรัดการเจรจาส่งสินค้าไทยที่ส่งไปจีนผ่านแดนต่างๆ เพราะปัจจุบันไทยส่งออกสินค้าไปทางตอนใต้ของจีนผ่านด่านชายแดนนครพนม มุกดาหาร ยังติดปัญหาและอุปสรรคบ้าง
ทั้งนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 กระทรวงพาณิชย์ร่วมกระทรวงเกษตรฯหารือเจรจากับรัฐบาลจีน เพื่ออำนวยความสะดวกการค้าให้คล่องตัวมากขึ้น การจัดคาราวานส่งออกบริเวณแนวชายแดนที่มีด่านสำคัญติดกับประเทศ CLMV เพื่อเปิดโอกาสให้นักธุรกิจท้องถิ่นและสินค้าไทยทีมีศักยภาพทั้งปลีก-ส่ง สามารถซื้อ ขายสินค้าได้ การสร้างศูนย์กระจายสินค้าชายแดน และข้ามแดนเพื่อความสะดวกในการกระจายสินค้าไทยไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งทางสภาหอการค้าได้เสนอ ด่าน ชายแดนบ่อเต็น เพราะมองว่าเป็นจุดที่มีศักยภาพที่จะส่งออกผ่านไปทางลาว สู่จีนตอนใต้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาถึงความเหมาะสมต่อไป
 
ส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นไทยเข้าไปวางจำหน่ายบนำแพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ๆ เช่น ไทยเทรดดอดคอม และ คลังดอดคอม ซึ่งเป็นที่นินมในตลาดกัมพูชา และมีแผนที่จะขยายแพลตฟอร์มอื่นๆเพิ่มเติมในอนาคต ส่งเสริมสินค้าโอทอป บริเวณพื้นที่สนามบิน ซึ่งจะมีการหารือกับการท่าอากาศยาน (ทอท.) และ จัดกิจกรรมอบรม สร้างความรู้ให้กับผู้ส่งออกรุ่นใหม่ ทั้งแต่ต้นทาง ถึงปลายทาง ทั้งนี้ จากการหามาตรการต่างๆเหล่านี้เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มยอดการส่งออกของไทยได้ นอกจากนี้ มาตรการนั้นสามารถดำเนินการได้ทันที อาจจะล่าช้า บาวกรณีเช่น การจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าที่จะต้องพิจารณาดูความเหมาะสม การเจรจาด่านที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน
 
สำหรับมูลค่าระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศ CLMV ปี 2562 มีมูลค่า 27,400 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินงานครั้งนี้จะจัดสรรงบส่งเสริมการตลาด งบประชาสัมพันธ์ เชื่อว่าจากทุกมาตรการจะสามารถช่วยเพิ่มตัวเลขการส่งออกของไทยปี 2563 ได้ อย่างไรก็ตามในแผนระยะต่อไป กระทรวงฯจะเชิญเอกชน เอสเอ็มอี จากภาคเหนือ ตะวันตก และภาคใต้ มาหารือแผนผลักดันการค้าชายแดนร่วมกันอีกครั้งโดยจะเพิ่ม CLMV และมาเลเซีย
สำหรับการส่งออกปี 2563 สนค.ประเมิณเป็นบวก จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลก สงครามการค้าที่เริ่มผ่อนคลาย และเงินบาทที่อ่อนตัวลงจะเป็นโอกาสที่ตัวเลขการส่งออกจะเป็นไปได้สูง ประกอบกับนโยบายรัฐบายที่จะเร่งรัดการขยายตัวเศรษฐกิจ และการส่งออกให้ได้ 60% ของ จีดีพี รวมถึงมาตรการต่างๆของกระทรวงพาณิชย์ ที่จะบุกตลาดใหม่ 18 ประเทศ เชื่อว่าจะทำให้ตัวเลขการส่งออกปี 2563 ขยายตัวเป็นบวกได้
ส่วนงบประมาณที่ล่าช้า คาดว่าเมื่อผ่านความเห็นชอบแลัวจะสามารถเบืกจ่ายได้ทันที ส่วนกรณี ส.ส.มีการเสียบบัตรออกเสียงแทนนั้น ระบุ ยังไม่อยากให้ประเมิน ให้เป็นหน้าที่ของศาลในการพิจารณา ส่วนการแก้ไขปัญหาเรื่องฝุ่นละอองเกินมาตรฐานนั้น ครม.มอบให้ พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ ไปหารือกับทุกหน่วยงานในการกำหนดมาตรการก่อนเสนอ ครม.พิจารณาครั้งต่อไป