ในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการหรือเทียบเท่าครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี เป็นประธานรับฟังความคืบหน้าของการดำเนินนโยบาย ทั้งยังย้ำว่า 40 หน่วยงานกระทรวงพลังงานต้องบูรณาการการทำงานในช่วงวิกฤตโรคระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้รัดกุม และต้องมีมาตรการเร่งด่วนช่วยแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวเพื่อดึงและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน รวมทั้งเศรษฐกิจโดยรวม ไปพร้อมกับนโยบาย หลัก Energy For All ของกระทรวงทั้ง 4 ด้าน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เผยว่า ได้หารือมาตรการบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชนไว้แล้ว เบื้องต้นจะพิจารณาออกมาตรการคืนเงินค้ำประกันมิเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งสำหรับภาคครัวเรือน คาดว่าจะใช้วงเงินในมาตรการนี้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท และอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนในช่วง 2 เดือนนี้ให้สำเร็จ
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
ขณะที่นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เผยว่า นายกรัฐมนตรีพร้อมให้เดินหน้าขับเคลื่อน 4 ด้านตามที่เสนอ คือ 1.ด้านไฟฟ้า การขับเคลื่อนโรงไฟฟ้าชุมชน ซึ่งเตรียมประกาศ หลักเกณฑ์การรับซื้อได้ในเดือนมีนาคมนี้ 2.ด้านน้ำมัน โดยส่งเสริมการใช้น้ำมัน B10 และการบริหารสต๊อกน้ำมันปาล์มที่ใช้ในภาคพลังงาน อีกทั้งยังวางมาตรการกำกับดูแลบริหารจัดการข้อมูลสต๊อกไบโอดีเซลอย่างครบวงจร
3.ก๊าซธรรมชาติ ความคืบหน้าการพัฒนา LNG Hub ได้วางโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นศูนย์กลางด้านก๊าซธรรมชาติเหลวของเอเชีย ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน เกิดประโยชน์ทางธุรกิจและเกิดการจ้างงาน รวมไปถึง 4.ภัยแล้ง ซึ่งกระทรวงพลังงานให้ความสำคัญกับสถานการณ์ภัยแล้ง ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริหารจัดการน้ำอุปโภคบริโภคให้สมดุล ทั้งยังพัฒนาระบบ geographical information system เพื่อติดตามจุดติดตั้งระบบสูบน้ำพลังแสงอาทิตย์ไปแล้วกว่า 2,003 บ่อ คาดว่าจะแล้วเสร็จเร็ว ๆ นี้อีก 662 บ่อ