ลุย GtoG ข้าวปินส์ 3 แสนตัน สู้อินเดีย-เมียนมา-เวียดนาม

หวั่น “อินเดีย-เมียนมา” คว้าออร์เดอร์ประมูลข้าวจีทูจีฟิลิปปินส์ 3 แสนตัน เหตุราคาถูกกว่าไทย 100 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่วนข้าวไทยแพงกว่าเกณฑ์กลางประมูล 40 เหรียญสหรัฐต่อตัน

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ในวันที่ 8 มิถุนายน 2563 กรมการค้าต่างประเทศจะยื่นหนังสือเข้าร่วมประมูลข้าวขาว 25% แบบรัฐต่อรัฐ (G-to-G) ต่อรัฐบาลฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นการจัดขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 ปี รวมปริมาณ 3 แสนตัน ทั้งนี้เบื้องต้นฟิลิปปินส์กำหนดหลักเกณฑ์ให้เสนอราคารวมค่าขนส่ง (CIF) เฉลี่ยไม่เกิน 490 เหรียญสหรัฐต่อตัน และกำหนดให้ผู้ชนะการประมูลจะต้องส่งมอบภายใน 22 มิถุนายน 2563

“ส่วนแผนการผลักดันการส่งออกข้าวไทย กรมก็ยังคงต้องเดินหน้าต่อไป ทั้งจีน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฮ่องกง เพื่อผลักดันการส่งออกให้เป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งปี 2563 ปริมาณ 7.5 ล้านตัน และจะไม่มีการกำหนดปริมาณการส่งออกเนื่องจากสถานการณ์ดีขึ้น”

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ประเมินเบื้องต้นว่าโอกาสที่ไทยจะชนะการประมูลครั้งนี้น้อยมาก เพราะราคาส่งออกข้าวขาว 25% ล่วงหน้า (FOB) ของไทยตันละ 470 เหรียญสหรัฐ และเมื่อรวมค่าจัดการอีกตันละ 60 เหรียญสหรัฐ จะทำให้ข้าวไทยมีราคาตันละ 530 เหรียญสหรัฐ สูงกว่าราคาเกณฑ์กลางที่ฟิลิปปินส์ตั้งไว้ตันละ 490 เหรียญสหรัฐ เทียบกับราคาข้าวเวียดนามตันละ 450 เหรียญสหรัฐ

“เป็นที่น่าสังเกตว่าการประมูลครั้งนี้ ทางฟิลิปปินส์เชิญทั้งอินเดียและเมียนมา จากเดิมมีเพียงเวียดนามและไทย ซึ่งปัจจุบันอินเดียมีสต๊อกข้าวส่วนเกินถึง 20 ล้านตัน และราคาข้าวขาว 25% อินเดียตันละ 360 เหรียญสหรัฐหากรวมค่าบริหารจัดการไปด้วยราคาก็ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายของฟิลิปปินส์ และยังถูกกว่าไทยถึงตันละ 100 เหรียญสหรัฐ โอกาสที่อินเดียจะชนะประมูลมีสูงมาก หรือแม้แต่เมียนมาก็มีโอกาสชนะประมูล อย่างน้อย 50,000 ตัน”

อย่างไรก็ตาม การเข้าร่วมประมูลจะเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรี และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่หากไทยไม่สามารถชนะประมูล ทางเอกชนยังสามารถ ส่งออกได้โดยใช้กรอบความตกลงอาฟต้า มีอัตราภาษี 35% ส่วนประเทศนอกอาเซียนมีภาษี 50%