สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยมั่นใจ ส่งออกข้าวปี’60 เฉียด 11 ล้านตัน หาก 3 เดือนหลังส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 9 แสนตัน

สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยมั่นใจ ส่งออกข้าวปี’60 เฉียด 11 ล้านตัน หาก 3 เดือนหลังส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 9 แสนตัน ดันราคาข้าวเปลือกนาปีพุ่งสูงกว่าปีก่อนตันละ 1,500 บาท พร้อมจับมือพาณิชย์ เปิดตัวโครงการพิเศษเทงบ 10 ล้านบาท จ่ายตรงช่วยค่ารถเกี่ยวชาวนา 5,000 ราย

ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวนับตั้งแต่มกราคม-3 ตุลาคม 2560 สามารถส่งออกได้แล้วกว่า 8.2 ล้านตัน ดังนั้น หากในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2560 สามารถส่งออกได้เฉลี่ยเดือนละ 900,000 ตัน จะทำให้การส่งออกข้าวทั้งปีประมาณ 10.8 ล้านตัน ซึ่งเป็นตัวเลขใกล้เคียงเป้าหมายการส่งออกที่วางไว้ 11 ล้านตัน ส่วนมูลค่าการส่งออกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบมูลค่าการส่งออกในปีที่ผ่านมา

ปัจจัยที่เอื้อให้การส่งออกข้าวขยายตัวไปในทิศทางที่ดี เป็นเพราะการส่งออกในช่วงปลายปีจะมีการส่งออกมาก อีกทั้งเป็นช่วงของเทศกาลปีใหม่และเทศกาลต่างๆ มีผลทำให้ประเทศผู้นำเข้ามาการนำเข้าข้าวมากขึ้น และหากปัจจัยเรื่องของค่าเงินบาทเอื้อ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อภาพการส่งออกข้าวได้มากขึ้น

โดยขณะที่ราคาข้าวหอมมะลิของไทย มองว่าไทยน่ายังจะแข่งขันได้หากเทียบราคาในกับประเทศคู่แข่ง เฉลี่ยราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในราคาตลาดอยู่ที่ 12,000 บาทต่อตัน ขณะที่ราคาตลาดโลกอยู่ที่ 750-800 เหรียญสหรัฐต่อตัน ราคาข้าวขาวอยู่ที่ 7,500 -8,000 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้น 1,500-2,000 ยาทต่อตันจากปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 6,000 บาทต่อตัน ส่วนราคาข้าวขาว 5% ราคาอยู่ที่ 375 เหรียญสหรัฐต่อตัน ข้าวนึ่ง 5% ราคาอยู่ที่ 385 เหรียญสหรัฐต่อตัน

อย่างไรก็ดี ภาพรวมผลผลิตข้าวทั้งปี 2560 ประเมินว่าน่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากผลผลิตมในปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 32 ล้านตัน เนื่องจากปัจจัยเรื่องของฝนดี ทำให้ปริมาณผลผลิตข้าวดีตามไปด้วย โดยเฉพาะผลผลิตข้าวหอมมะลิในภาคอีสาน ปีนี้คาดว่าผลผลิตน่าจะดีโดยเฉพาะพื้นที่นาดอน แต่ปีนี้การเก็บเกี่ยวก็อาจจะล่าช้าไป 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากสถานการณ์น้ำ

“ราคาข้าวหอมมะลิปีนี้ก็น่าจะดี เนื่องจากความต้องการในตลาดโลกมีมากขึ้น ประกอบกับโรงสีส่วนใหญ่ไม่มีข้าวในสต๊อกก็เชื่อว่าน่าจะมีความต้องการซื้อข้าวเพื่อเก็บไว้ในสต๊อกมากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นปัจจัยต่อราคาข้าวปรับตัวดี”

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย จัดทำโครงการลดต้นทุนเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับคุณภาพข้าวส่งออกของเกษตรกร โดยสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจะให้เงินช่วยเหลือ ค่ารถเกี่ยวนวดข้าวแก่ชาวนา ที่เป็นสมาชิกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยในอัตราไร่ละ 200 บาท รายละไม่เกิน 10 ไร่ ซึ่งมีจำนวนชาวนาเข้ารับการช่วยเหลือทั้งสิ้น 5,363 ราย รวมพื้นที่เพาะปลูกกว่า 45,000 ไร่ ใน 12 จังหวัด รวมเงินช่วยเหลือ 9,172,300 บาท โดยจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ของชาวนาแต่ละรายโดยตรง

สำหรับ 12 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม ร้อยเอ็ด สุรินทร์ นครราชสีมา มหาสารคาม บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ และศรีสะเกษ ซึ่งที่เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวคุณภาพดีที่สำคัญเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

รวมทั้งในปีนี้ยังได้ร่วมกับกรมกิจการพลเรือนทหารบก เตรียมรถเกี่ยวข้าว 10 คัน ตามที่ได้รับมอบจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยว ปี 2560/61 ในเดือนพฤศจิกายน 2560 นี้ด้วย ขณะที่กรมการค้าภายในก็ได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดตัวแอปพลิเคชั่นจองรถเกี่ยว เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนรถเกี่ยวข้าวในพื้นที่ที่มีปัญหาซ้ำซากในแต่ละปี โดยจะนำร่องใช้ในจังหวัดอุบลราชธานี เปิดใช้วันที่ 18 – 19 ตุลาคมนี้

พร้อมกันนี้ จะมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ในการลงพื้นที่ให้ความรู้และอบรม เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับเกษตรกรในการใช้งานแอปพลิเคชั่นอีกด้วย และกำชับให้พาณิชย์จังหวัดติดตามผลการทำงาน และการใช้งานแอปพลิเคชั่นได้จนริงหรือไม่ และรถเกี่ยวข้าวมาตามเวลาจริงหรือไม่ เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการส่งออกข้าวในปี 2560 นี้ ข้าวไทยยังเป็นที่ต้องการของตลาดโลก โดยการส่งออกข้าว ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 11 ตุลาคมที่ผ่านมา มีปริมาณทั้งสิ้น 8.9 ล้านตัน มูลค่า 132,754 ล้านบาท หรือ 3,891 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 25% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 17.41% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น ข้าวขาว 3.91 ล้านตัน ขยายตัว 43.61% ข้าวนึ่ง 2.65 ล้านตัน ขยายตัว 29.59% และข้าวหอมมะลิ 1.68 ล้านตัน ขยายตัว 18.73%

“แผนการระบายข้าวขณะนี้ ยังไม่มีนโยบายในการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล เนื่องจากเป็นช่วงที่ปริมาณข้าวนาปีกำลังออก ส่วนจะมีแผนระบายข้าวเมื่อไรนั้น อาจจะต้องรอดูสถานการณ์ราคาและทิศทางของตลาดก่อน จึงไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีการระบายข้าวได้เมื่อไร”