ทูตพาณิชย์ เร่งสปีดทำงาน ตามนโยบาย “ตลาดนำการผลิต”

“สมเด็จ” มอบนโยบายการทำงานให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลก เน้นเดินหน้ายุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” และนโยบาย 14 ข้อ พร้อมทำหน้าที่ “เซลส์แมนประเทศ”

วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า วันที่ 12 พ.ค. 2564 ที่ผ่านมา ได้มอบนโยบายการทำงานให้กับข้าราชการที่จะไปประจำการในต่างประเทศ ผ่านระบบ Zoom หลักสูตร “การเตรียมความพร้อมข้าราชการที่จะไปประจำการในต่างประเทศ” ปีงบประมาณ 2564

โดยได้เน้นให้มีการปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” และทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อเร่งรัดการนำรายได้เข้าประเทศ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามนโยบาย 14 ข้อ

ทั้งนี้ ภายใต้นโยบาย 14 ข้อ มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบและเร่งรัดการดำเนินการ ก็คือ การสนับสนุนนโยบายตลาดนำการผลิต ซึ่งต้องตรวจสอบความต้องการในตลาดที่ประจำอยู่เป็นอย่างไร ใครเป็นผู้นำเข้า มีกฎระเบียบอะไร และแจ้งมายังฝ่ายผลิต และช่วยในการระบายสินค้า, อาหารไทยอาหารโลก จะต้องเร่งจัดกิจกรรมกระตุ้นการส่งออก จัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ และประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์อาหารไทยมีคุณภาพ ปลอดภัย, การผลักดันการค้าออนไลน์ ซึ่งต้องช่วยหายี่ปั๊วออนไลน์มารวบรวมสินค้าจากผู้ผลิตแล้วนำไปจำหน่ายในแพลตฟอร์มออนไลน์,

สมเด็จ สุสมบูรณ์

การผลักดันธุรกิจบริการ เช่น ค้าปลีก ค้าส่ง โลจิสติกส์ การดูแลสุขภาพ ดิจิทัลคอนเทนต์ ร้านอาหาร การพิมพ์ เป็นต้น, ช่วย SMEs ทำตลาดต่างประเทศ, เร่งรัดการส่งออกในยุค New Normal, ช่วยสนับสนุนและแก้ไขปัญหาการค้าชายแดน, สนับสนุนการเจรจา FTA และ Mini FTA, สนับสนุนการขึ้นทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาไทยในต่างประเทศ เช่น สินค้า GI, พัฒนางานให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ และร่วมมือกับภาคเอกชนในการทำงาน

นายสมเด็จ กล่าวว่า ยังต้องเชื่อมโยงการทำงานระหว่างสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ในฐานะเซลส์แมนประเทศ กับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ในฐานะเซลส์แมนจังหวัด โดยใช้ประโยชน์จากกลุ่มไลน์ทูตพาณิชย์กับพาณิชย์จังหวัด ในการสร้างโอกาสในการส่งออกให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการท้องถิ่น และร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าที่อาจจะเกิดขึ้น

ส่วนการทำงาน จะต้องปรับมาเป็นระบบออนไลน์และไฮบริดมากขึ้น โดยเน้นการเจรจาการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Business Matching : OBM), การจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทยในรูปแบบเสมือนจริง (Virtual Trade Fair) หรือรูปแบบผสมผสาน (Hybrid), ปรับรูปแบบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ (Overseas Trade Shows) และการจัดงานแสดงสินค้าไทย (Top Thai Brands) ในต่างประเทศ

จากเดิมที่ผู้ประกอบการไทยต้องเดินทางไปร่วมออกคูหาภายในงาน เป็นในรูปแบบ Mirror-Mirror โดยผู้ประกอบการไม่ต้องเดินทาง แต่มอบตัวแทนจำหน่ายออกคูหาในนามบริษัท และหรือส่งตัวอย่างสินค้าไปจัดแสดงในงาน โดยมีระบบเจรจาการค้าทางออนไลน์ ซึ่งจะต้องจัดเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน ต้องทำการตลาดโดยใช้สื่อออนไลน์ให้มากขึ้น เช่น การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ สำนักข่าวหรือนิตยสารออนไลน์ หรือผ่านกลุ่มผู้มีอิทธิพลทางความคิด (Influencers) เพื่อสร้างความต้องการในตัวสินค้าหรือบริการของไทยในประเทศนั้น ๆ, เพิ่มพันธมิตรแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำของต่างประเทศในตลาดต่าง ๆ ให้มากขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยใช้ช่องทาง Cross Border E-commerce ในการเข้าถึงผู้บริโภคในประเทศต่าง ๆ ได้โดยตรง, เจาะตลาดเมืองรอง โดยการขยายความร่วมมือทางการค้ากับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชน ในระดับรัฐ มณฑล

อย่างไรก็ตาม ในการมอบนโยบายครั้งนี้ นายสมเด็จได้มอบข้อคิดในการทำงาน จำนวน 10 ร. คือ 1.รับผิดชอบ 2.รักษาระเบียบ กฎ กติกา 3.รู้ตนเอง 4.รอบรู้ เรียนรู้ ริเริ่ม 5.ร่วมมือ ร่วมใจ 6.รวดเร็วอย่างเรียบร้อย 7.รับรองเหมาะสม 8.รอบคอบ 9.รู้คิดเชิงบวก และ 10.รู้จักสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเครือข่าย ให้กับข้าราชการที่จะไปประจำอยู่ในต่างประเทศด้วย