
“ราช กรุ๊ป” แตกไลน์ธุรกิจพลังงานสู่เฮลท์แคร์ ทุ่ม 1,550 ล้าน ซื้อหุ้น PRINC 10% มองโอกาสเติบโตธุรกิจสุขภาพ สอดรับนโยบายรัฐให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพ (medical hub) ขณะที่ PRINC ยันเป้าหมายธุรกิจปี 2565 มีโรงพยาบาลพิกัดเมืองรอง 20 แห่ง คลินิก 100 แห่ง
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า บริษัทมองเห็นโอกาสของธุรกิจสุขภาพ (เฮลท์แคร์) ที่มีการเติบโต และเป็นธุรกิจที่สร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวโดยเฉพาะประเทศไทยที่กำลังเข้าสู่ aging society
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 1 ธ.ค. 2566
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เข้าบัญชีวันนี้ 5 จังหวัด
- วิธีเช็กเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท chongkho.inbaac.com
อีกทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นตัวเร่งธุรกิจเติบโต ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพ (medical hub) คณะกรรมการบริษัทจึงมีมติอนุมัติให้เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล หรือ PRINC ในสัดส่วน 10% หรือคิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 1,557.70 ล้านบาท
สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทในปี 2564 นี้อยู่ที่ 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็นลงทุนไฟฟ้า 8,000 ล้านบาท ลงทุนโครงการใหม่ 7,000 ล้านบาทโดย 1,500 ล้านบาท อยู่ในแผนการลงทุนนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม บริษัทมองการลงทุนครั้งนี้เป็นการลงทุนระยะยาว ซึ่งจะมุ่งเน้นการใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วยลดต้นทุนด้านไฟฟ้าและพลังงาน คาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ในระยะ 2-3 ปี และอนาคตคาดว่าจะมุ่งสู่การสร้างศูนย์โรงพยาบาล หรือศูนย์การแพทย์ในเครือ PRINC ในพื้นที่ของ RATCH อีกด้วย
“ช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีความสนใจโมเดลการลงทุนธุรกิจบริการสุขภาพอยู่แล้ว เพราะมีความใกล้เคียงกับธุรกิจผลิตไฟฟ้าที่ใช้เงินลงทุนสูงและมีระยะเวลาคืนทุน ในช่วงเริ่มของการลงทุนเราจะมุ่งเน้นสร้างฐานธุรกิจในตลาดเมืองรองทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ และอนาคตอาจจะเพิ่มสัดส่วนธุรกิจออกไป เพราะธุรกิจสุขภาพยังมีโอกาสอีกมาก”
ด้านนายสาธิต วิทยากร กรรมการผู้จัดการ PRINC กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะนำไปสู่การขยายโรงพยาบาลตามเป้าในปี 2565 รวม 20 แห่ง จากปัจจุบันมีจำนวน 11 แห่งใน 10 จังหวัด โดยจะเน้นเข้าร่วมทุนโรงพยาบาลขนาดกลางและเล็กที่มีอยู่เดิมแทนการสร้างใหม่ มองการขยายไปยังภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีแผนขยายเครือข่ายปฐมภูมิที่เป็นคลินิกบัตรทอง
จากปัจจุบันเปิดดำเนินการ13 แห่งให้ครอบคลุมทั้งประเทศ 100 แห่งในปี 2565 ใช้เงินลงทุนราว 5,000-6,000 ล้านบาท การเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปขยายธุรกิจโรงพยาบาลและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ซึ่งตามแผนการลงทุนของบริษัทภายในปี 2564 จะมีการขยายโรงพยาบาล ทั้งการปรับปรุงและขยายโรงพยาบาลแห่งเดิม
รวมถึงการลงทุนในโรงพยาบาลแห่งใหม่ คิดเป็นเงินลงทุนประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าหากสามารถเพิ่มเครือข่ายโรงพยาบาลและคลินิกได้ตามแผนในปี 2565 จะส่งผลดีต่อรายได้ซึ่งบริษัทยังขาดทุนอยู่ที่ 161 ล้านบาทต่อไป