ธ.ก.ส.หนุนเกษตรกรทำประกันภัยโคนม-โคเนื้อ คุ้มครอง “โรคลัมปิสกิน”

วัว

ธ.ก.ส.หนุนเกษตรกรทำประกันภัยโคนม-โคเนื้อ คุ้มครองโรคลัมปิสกิน วงเงิน 30,000 บาทต่อตัว ระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี 

วันที่ 21 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. สนับสนุนเกษตรกรทำประกันภัยโคนมและโคเนื้อ ป้องกันความเสี่ยงและสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงิน คุ้มครองการตายจากอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติและการเจ็บป่วย รวมถึงโรคลัมปิสกินที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ วงเงิน 30,000 บาทต่อตัว

สำหรับกรณีโคนม ค่าเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 810 บาทต่อตัว ระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี และโคเนื้อค่าเบี้ยประกันภัย 400 บาทต่อตัว ระยะเวลาคุ้มครอง 6 เดือน ติดต่อซื้อกรมธรรม์ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

โครงการประกันภัยโคนม

โครงการประกันภัยโคนม บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับประกันภัย โดยคิดอัตราค่าเบี้ยประกันภัยตัวละ 810 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแล้ว) ซึ่งให้ความคุ้มครองการตายจากการเจ็บป่วยของโคนมไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัว การตายจากอุบัติเหตุไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัว และการตายจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า น้ำท่วม และลมพายุไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัว ระยะเวลาคุ้มครอง1 ปี โดยโคนมต้องมีใบรับรองสุขภาพจากสัตวแพทย์ อายุโคนมตั้งแต่ 18 เดือน-8 ปี และสามารถทำประกันภัยโคนมบางตัวในฟาร์มได้

โครงการประกันภัยโคเนื้อ

โครงการประกันภัยโคเนื้อ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับประกันภัยโดยคิดอัตราค่าเบี้ยประกันภัยตัวละ 400 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแล้ว) ซึ่งให้ความคุ้มครองการตายจากการเจ็บป่วยของโคเนื้อ ไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัว และการตายจากอุบัติเหตุ ไฟไหม้ ฟ้าผ่า น้ำท่วม ดินถล่ม พายุ และแผ่นดินไหว ไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัว ระยะเวลาคุ้มครองสิ้นสุดเมื่อส่งขายคอกกลางหรือ 6 เดือนนับจากวันขอเอาประกันภัย

โคเนื้อที่ขอเอาประกันภัยต้องมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ไม่มีความพิการซึ่งมีผลกับสุขภาวะและไม่เป็นโรคเรื้อรังไม่อยู่ระหว่างการรักษาพยาบาลมีอายุไม่เกิน 36 เดือน ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์และมีการทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ (NID คือ การเขียนที่ใบหู/RFID คือ การฝังชิปที่ใบหู) มีบันทึกประวัติถ่ายพยาธิฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากเท้าเปื่อยและโรคคอบวม (Hemorrhagic Septicemia) มาแล้วไม่เกิน 1 เดือน นับแต่วันที่ขอเอาประกันภัยโดยเกษตรกรผู้เอาประกันภัยจะต้องแสดงเอกสารยืนยันตัวตนของโคเนื้อ

ทั้งนี้ ทั้ง 2 โครงการ ผู้ขอเอาประกันภัยต้องเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคที่ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์ โดยโคที่ขอประกันภัยต้องมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคหรือไม่เจ็บป่วยในช่วงระยะเวลารอคอยหรือภายในช่วง 30 วัน นับจากวันที่กรมธรรม์เริ่มมีผลคุ้มครอง

ด้าน นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า การประกันภัยดังกล่าวให้ความคุ้มครองการตายจากโรคลัมปิสกิน ซึ่งเป็นโรคระบาดใหม่ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาแนวทางการรักษา รวมถึงการดูแลอย่างถูกต้อง จึงอาจสร้างผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและโคเนื้อ จึงขอเชิญชวนเกษตรกรร่วมทำประกันภัยเพื่อป้องกันความเสี่ยง โดยเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอเอาประกันภัยได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 0-2555-0555