ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 ชี้ว่า ภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2561 จะขยายตัวในกรอบ 3.5-4% โดยภาพการส่งออกขยายตัว 3.5-6% จากคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2560 ซึ่งที่ประชุมยังคงกรอบเดิม ที่เคยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 3.7-4% การส่งออกขยายตัว 6.5-7% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั้งปีขยายตัว 0.5-1%
ปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย เป็นผลมาจากการส่งออก การท่องเที่ยว การลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชน และการบริโภคในประเทศดีขึ้น แม้จะเกิดภาวะน้ำท่วมแต่ภาครัฐมีมาตรการช่วยเหลือจึงทำให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยยังเดินหน้าไปได้ด้วยดี
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
นอกจากนี้ การที่ธนาคารโลกเผยแพร่รายงานความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (ease of doing business) ประจำปี 2018 โดยปรับอันดับไทยดีขึ้น 26 จาก 190 ประเทศของโลก เพิ่มขึ้น 20 อันดับ และติดที่ 2 ของโลกประเทศที่พัฒนามากสุด ถือเป็นสิ่งที่ดีต่อภาพลักษณ์ของไทยในสายตานักลงทุน ซึ่งที่จะเห็นว่าสามารถดำเนินธุรกิจได้สะดวกมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ทั้งจีน สหรัฐ และยุโรป ที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจและการส่งออก ซึ่งทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มดีขึ้น อัตราการว่างงานลดลง ส่วนเลือกประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ไม่น่ากังวล เพราะคาดว่ากลุ่มผู้ที่จะได้รับคัดเลือกจะเป็นกลุ่มที่ใช้นโยบายใกล้เคียงกับกลุ่มเดิม ซึ่งจะมีผลทำให้ค่าเงินดอลลาร์มี
แนวโน้มแข็งค่าขึ้น ส่งผลดีต่อค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลง อย่างไรก็ตาม การผันผวนของค่าเงินยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่นด้วย เช่น สถานการณ์ในตลาดเงิน ตลาดทุน และการซื้อขายล่วงหน้าของผู้ส่งออก
ส่วนกระแสการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีนั้น ที่ประชุม กกร.ยังไม่ได้มีประเด็นหารือในเรื่องดังกล่าว เพียงแต่วงในมองว่าหากมีการปรับตัวรัฐมนตรีใหม่ที่มีความเข้าใจบทบาทการทำงาน
และสามารถสานต่อการดำเนินงานได้ทันที ไม่ก่อให้เกิดการหยุดชะงักในช่วง 1 ปีก่อนการเลือกตั้ง ถือเป็นช่วงที่ต้องเดินหน้านโยบายให้เป็นรูปธรรม