CLMVT+Forum 2021 ฟื้นฟูเศรษฐกิจฝ่าโควิด

CLMVT

การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจประเทศกลุ่มกัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย หรือ CLMVT ในปี 2563 โดยเฉพาะเวียดนาม ไทย และกัมพูชา มีการชะลอตัวลงอย่างชัดเจน ในขณะที่เศรษฐกิจลาวและเมียนมาเผชิญการหดตัวจากปัจจัยด้านลบรายประเทศด้วย

ในปีนี้การฟื้นตัวในภาพรวมจะยังคงเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปและไม่ทั่วถึง โดยจะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 และความคืบหน้าของการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศจะต้องอาศัยขนาดและประสิทธิภาพของมาตรการภาครัฐในการบรรเทาผลกระทบจากแผลเป็นทางเศรษฐกิจ (scarring effects) ระหว่างรอการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ภายในภูมิภาค (herd immunity)

CLMVT+Plus

ล่าสุดทางสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เตรียมจัดงาน “CLMVT+Forum 2021” ในหัวข้อ “Accelerating a Resilient Recovery” มุ่งสู่การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ผ่านทางช่องทาง Webinar (Zoom) ระหว่างวันที่ 24-26 สิงหาคม 2564 นี้

โดยมีผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการและองค์การระหว่างประเทศจากกลุ่ม CLMVT ประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่ค้าสำคัญร่วมหารือแสดงวิสัยทัศน์และกำหนดแนวคิดริเริ่มต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาอนุภาคร่วมกันฟื้นฟูประเทศหลังวิกฤตโควิดโดยใช้เศรษฐกิจเป็นตัวนำ และส่งเสริมความเชื่อมโยงทางการค้าระหว่างกันเพื่อให้กลุ่ม CLMVT เป็นภูมิภาคที่น่าลงทุนที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และสามารถรับมือการเปลี่ยนแปลงในระดับโลกที่กำลังมาถึง

ประเด็นสำคัญที่จะหยิบยกมาพูดคุยบนเวทีสัมมนาเป็นการต่อยอดจากผลการศึกษาภายใต้โครงการ CLMVT+Plus ยกระดับการค้าและการลงทุนเพื่ออนาคตของ สนค.ซึ่งเน้นย้ำว่าแนวทางในการยกระดับการค้าและการลงทุนในอนาคต จำเป็นต้องเริ่มจากการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างทั่วถึงในอนุภูมิภาค

จากการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดพบว่า เศรษฐกิจใหม่ที่เข้มแข็งจะต้องมาจากการปรับปรุงการเชื่อมโยงการค้าข้ามพรมแดน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคเอกชนเป็นตัวกลางเพิ่มความร่วมมือในระดับภูมิภาค

อีกทั้งการควบคุมและกฎระเบียบที่สอดคล้องกันจะช่วยลดต้นทุนทางการค้าและการอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนผ่านการส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกกระชับความร่วมมือภายใต้กรอบการค้าเสรีระดับภูมิภาคตามข้อตกลงต่าง ๆ เช่น ข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) จะขจัดกำแพงการค้าด้านภาษีและอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี

ดันรายย่อย MSMEs

และที่สำคัญ ภาครัฐจำเป็นต้องสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs) ในยุคการค้าดิจิทัล โดยเริ่มจากความช่วยเหลือทางการเงินแบบเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนให้ MSMEs สามารถเริ่มต้นใหม่ และดำเนินโครงการพัฒนาเพื่อยกระดับทักษะด้านดิจิทัล (upskill) และการเข้าถึงตลาดในภูมิภาค

ทั้งนี้ การส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจสตาร์ตอัพและระบบนิเวศที่เกี่ยวข้อง จะช่วยเปิดมิติใหม่ของเศรษฐกิจใน CLMVT จากการเป็นเพียงแค่โรงงานผลิตสู่การเป็นดินแดนแห่งการลงทุนด้านนวัตกรรม ประเด็นที่ท้าทายสำหรับอนุภูมิภาคแห่งนี้ การสร้างวิถีการค้าและการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

CLMVT+Forum 2021 ประกอบด้วยกิจกรรมทั้งหมด 3 วัน โดยเริ่มต้นในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ด้วยปาฐกถาพิเศษเรื่อง “CLMVT หลังยุคโควิด-19” โดยผู้ทรงคุณวุฒิ เช่น คุณโจ ฮอร์น พัธโนทัย กรรมการอำนวยการ บริษัท Strategy613 จำกัด ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานยุทธศาสตร์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

ในช่วงบ่ายจะเสวนาระดมความเห็นในหัวข้อ “BRI & B3W : จุดยืนที่สมดุลท่ามกลางการแข่งขันของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ”

ปั้นสตาร์ตอัพ

สำหรับการประชุมในวันที่ 25 สิงหาคม 2564 จะมีกิจกรรมระดมความเห็นใน 3 หัวข้อ ได้แก่

“กระแสโลก (Megatrends) กับอนาคตการค้าและการลงทุน”

“ผลกระทบจากโควิด-19 ต่อห่วงโซ่อุปทานและแนวทางการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ”

และ “การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในสถานการณ์ความปกติรูปแบบใหม่ (New Normal) สู่แนวทางส่งเสริมสตาร์ตอัพใน CLMVT”

และในวันที่ 26 สิงหาคม 2564 พิเศษในปีนี้ มีการจัดกิจกรรม “Battle of Startups 2021” สร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ผ่านการจับคู่ธุรกิจและนำเสนอธุรกิจ (startup pitching) ในกลุ่มธุรกิจสำคัญ เช่น เกษตร อาหาร สุขภาพ การศึกษา และโลจิสติกส์ ซึ่งมีเงินรางวัล 100,000 บาท

นับได้ว่า CLMVT Forum เป็นเวทีหารือสำคัญที่รวบรวมสุดยอดผู้นำทางความคิด เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าการลงทุนในภูมิภาค CLMVT ซึ่งเป็นทั้งฐานการผลิตที่เข้มแข็งตลาดที่กำลังเติบโต ประชากรรวมกว่า 244 ล้านคน ให้สามารถฝ่าวิกฤตกลับมาเป็นภูมิภาคแห่งการค้าและการลงทุนที่เข้มแข็งกว่าเดิมได้