คลัสเตอร์โควิดโรงงานฉุดส่งออก ส.ค. โตแผ่ว 8.93%

โรงงานอุตสาหกรรมอาหาร
FILE PHOTO : STR / AFP

พาณิชย์เผยการส่งออก ส.ค. 64 ขยายตัว 8.93% ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากเดือนที่ผ่านมา จากผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้โรงงานบางแห่งปิด โลจิสติกส์มีปัญหาบางช่วง ขณะที่ส่งออกรวม 8 เดือน ขยายตัว 15.25% คาดทั้งปีโตเกินเป้า 4% แน่นอน

วันที่ 24 กันยายน 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาพรวมการส่งออกเดือนสิงหาคม 2564 พบว่ามีมูลค่า 21,976.23 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.93% โดยถือว่าชะลอตัวลงจากเดือนกกรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา เพราะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ออกมาตรการล็อกดาวน์ แรงงานติดเชื้อมีผลให้โรงงานผลิตบางแห่งปิด หรือปิดบางส่วน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด

ระบบโลจิสติกส์มีปัญหาติดขัดทั้งการขนส่งข้ามจังหวัด การขนส่งข้ามแดน ซึ่งเป็นเรื่องที่ได้คาดการณ์ไว้แล้ว แต่ก็ยังถือว่าทำได้ดี ส่วนยอดรวม 8 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่า 176,961.71 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.25% ยังเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 4% เยอะพอสมควร

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

ทั้งนี้ การนำเข้ามีมูลค่า 23,191.89 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 47.92% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าวัตถุดิบสูงถึง 65.73% จะเป็นผลดีต่อการส่งออกในอนาคต เนื่องจากมีการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อการผลิตในการส่งออกสินค้า สำหรับยอดรวมการส่งออก 8 เดือน (มกราคม-สิงหาคม 2564) มีมูลค่า 175,554.75 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 30.97% เกินดุลการค้า 1,406.96 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับการส่งออกที่ขยายตัว มาจากการเพิ่มขึ้นของการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร 23.6% และหากดูลึกในรายสินค้า พบว่าผลิตภัณฑ์ยางพารา เพิ่มขึ้น 98.8% บวกต่อเนื่อง 11 เดือน ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแปรรูป เพิ่มขึ้น 84.8% บวก 5 เดือนต่อเนื่อง น้ำมันปาล์ม เพิ่มขึ้น 51.0% บวก 6 เดือนต่อเนื่อง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพิ่มขึ้น 48.4% บวก 10 เดือนต่อเนื่อง ข้าวเพิ่มขึ้น 25.4% กลับมาบวกครั้งแรกในรอบ 8 เดือน และอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น 17.3 บวก 24 เดือนต่อเนื่อง

“หากดูเฉพาะสินค้าเกษตรจะบวกสูงถึง 45.5% โดยยางพารา ขยายตัว 98.8% เกือบทำได้ 100% ผลไม้ ขยายตัว 84.8% หากดูลึกลงไปที่ส่งออกเพิ่ม เช่น เงาะ ที่ไม่เคยหยิบมาไฮไลต์ ขยายตัว 431% ทุเรียน ขยายตัว 315.48% ลำไย ที่เคยกังวลช่วงต้นฤดู ขยายตัว 102.67% มังคุด ขยายตัว 44.16% ส่วนการส่งออกข้าวที่ตัวเลข 7 เดือนไม่ดี เพราะบาทแข็ง แข่งขันเวียดนามและอินเดียไม่ได้ แต่พอบาทอ่อน เศรษฐกิจโลกดีขึ้น มีความต้องการข้าวเพิ่มขึ้น ส่งออก ส.ค.เริ่มเป็นบวก 25.44% ดูสัญญาณถึงสิ้นปี มีแนวโน้มดี”

ส่วนสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 3.3% สินค้าสำคัญที่ส่งออกเพิ่ม เช่น ยานยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เพิ่มขึ้น 17.8% รถจักรยานยนต์ เพิ่มขึ้น 44.3% คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน เพิ่มขึ้น 10.5% อัญมณีและเครื่องประดับ เพิ่มขึ้น 35.7% เป็นต้น

ขณะที่ตลาดส่งออก พบว่าขยายตัวเกือบทุกตลาด เช่น สหรัฐ เพิ่ม 16.2% จีน เพิ่ม 32.3% ญี่ปุ่น เพิ่ม 10% อาเซียน เพิ่ม 15.2% สหภาพยุโรป เพิ่ม 16.1% อินเดีย เพิ่ม 44.2% ยกเว้น 3 ตลาด ได้แก่ ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และ CLMV ที่ขยายตัวติดลบ

นายจุรินทร์กล่าวว่า ปัจจัยที่สนับสนุนการส่งออกในเดือน ส.ค. 2564 ที่ทำให้เป็นบวกได้ มาจากการแก้ไขปัญหาเชิงรุกและต่อเนื่องของ กรอ.พาณิชย์ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ที่อังค์ถัดประเมินว่าจะโตเร็วสุดในรอบ 50 ปี โตมากในสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป เป็นต้น ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของโลก หรือ PMI เกินระดับ 50 ต่อเนื่อง 14 เดือน แปลว่าพร้อมซื้อ และอย่างน้อยซื้อจากไทยด้วย และค่าเงินบาทอ่อนค่าในช่วงหลายเดือน ส่งผลให้ขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของไทยสูงขึ้น ขายสินค้าได้มากขึ้น

อย่างไรก็ดี การขับเคลื่อนการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับเอกชนผลักดันการส่งออกต่อไป เพื่อทำรายได้เข้าประเทศต่อไป และจากผลกระทบจากปัญหาล็อกดาวน์ซึ่งมีผลกระทบต่อภาคการผลิตเชื่อว่าช่วงปลายปีสถานการณ์จะดีขึ้น โดยมั่นใจว่า การส่งออกทั้งปี จะทำได้เกินเป้าหมาย 4% อย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นตัวเลข 2 หลักตามที่เอกชนประเมินไว้หรือไม่ ก็จะทำให้ดีที่สุด และเชื่อว่าทำได้