“จุรินทร์” ชง ครม.เคาะมาตรการช่วยชาวนา พร้อมสั่งทูตพาณิชย์เร่งส่งออกข้าว

“จุรินทร์” ชง ครม.เคาะมาตรการช่วยชาวนา พร้อมสั่งทูตพาณิชย์เร่งส่งออกข้าว

“จุรินทร์” เผยสัปดาห์หน้าที่ประชุม ครม. พร้อมเสนองบประมาณช่วยเหลือชาวนาเพิ่มเติม ขยายกรอบเพดานด้านการเงินการคลัง หวังช่วยเหลือชาวนา อีกทั้งสั่งการทูตพาณิชย์โดยเฉพาะตลาดข้าว เร่งเพิ่มกิจกรรมทำตลาดข้าวไทยเชิงรุกทุกรูปแบบ หลังทำยอดส่งออกในตลาดข้าว ญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย และฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวระหว่างการลงพื้นที่เพื่อพบปะสมาชิกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย พร้อมประชุมหารือเรื่องปัจจัยการผลิตและติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกร ที่ชุมชนหมู่ 6 ก้าวหน้า แขวงคลอง 12 เขตหนองจอกกรุงเทพมหานคร ว่า ในสัปดาห์ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเสนอถึงงบประมาณในการดูแลเกษตรกรเพิ่มเติม จากโครงการประกันรายได้ข้าว

พร้อมทั้งนี้ ทางรัฐบาลยังจะเพิ่มเพดานด้านการเงินการคลัง ตามมาตรา 28 เพื่อช่วยชาวนาและเกษตรกรหากสถานการณ์ราคาข้าวไม่ดีขึ้น อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังเดินหน้าโครงการประกันรายได้ข้าวปี 3 และสินค้าเกษตรอีก 4 ตัวด้วย

แต่ทั้งนี้ พบว่า รายการสินค้าเกษตรตัวอื่นปรับราคาดีขึ้น เช่น ผลไม้ ยางพารา ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ส่งผลให้การชดเชยจ่ายส่วนต่างจากประกันรายได้ไม่จำเป็นต้องชดเชย เพราะราคาเกินจากราคาประกันรายได้ซึ่งไม่กระทบภาระงบประมาณ นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ พร้อมที่จะส่งเสริมและยกระดับราคาข้าวไทยให้สูงขึ้นด้วย

ด้านนางมัลลิกา บุญมีตระกูลมหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศที่เป็นตลาดข้าวของไทย เร่งทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดข้าวไทยในทุกรูปแบบ

ทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในประเทศนั้น ๆ การจัดประชาสัมพันธ์ข้าวไทย การผลักดันข้าวพรีเมี่ยมชนิดต่าง ๆ และการประชาสัมพันธ์ร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เพื่อผลักดันการส่งออกข้าวไทย

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่าการขยายตลาดข้าวไทย จะต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับเทรนด์หรือกระแสในแต่ละตลาดด้วย เช่น จีนควรมุ่งเน้นข้าวพรีเมี่ยม เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ กลุ่มผู้สูงวัย กลุ่มเด็ก ข้าวแปรรูปสำหรับเด็ก กลุ่มคนป่วย ข้าวน้ำตาลต่ำ

โดยเน้นประชาสัมพันธ์คุณประโยชน์ของข้าวไทย และในทุกภูมิภาคของจีน ต้องผลักดันกิจกรรมส่งเสริมการขายข้าวไทยในช่องทางต่าง ๆ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์อย่างเข้มข้นต่อไป ทั้งการใช้ Key Opinion Leader (KOL) การไลฟ์สดร่วมกับ KOL การสนับสนุนให้ร้านอาหารไทยใช้ข้าวไทย เป็นต้น

สำหรับตลาดญี่ปุ่น เน้นข้าวประเภท Functional Food เช่น ข้าวออร์แกนิก ข้าวไรซ์เบอรี่ ตามกระแสรักสุขภาพและการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ รวมถึงข้าวแพ็กพร้อมรับประทานแบบอุ่นไมโครเวฟ ที่กำลังเป็นที่นิยม

เนื่องจากตอบโจทย์สังคมเร่งรีบและการทำงานที่บ้าน ตลาดมาเลเซีย เน้นตลาดเฉพาะ เช่น ข้าวสังข์หยด ตลาดฮ่องกงและสิงคโปร์ เน้นข้าวหอมมะลิฤดูกาลใหม่ เนื่องจากใกล้ถึงช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน และข้าวเป็นสินค้ามงคลที่ชาวจีนนิยมใช้เป็นของฝากในช่วงเทศกาล เป็นต้น

ล่าสุดได้รับรายงานความคืบหน้าเข้ามาแล้ว โดยทูตพาณิชย์ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเซลส์แมนประเทศ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายข้าวไทยแล้ว โดยหอมมะลิและข้าวไรซ์เบอรี่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Rakuten การร่วมกับทีมเซลส์แมนจังหวัดจัดเจรจาการค้าออนไลน์ การประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร Thai SELECT โดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียง

รวมทั้งแพลตฟอร์มแนะนำร้านอาหาร Tabelog ซึ่งเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น ร่วมกับซูปเปอร์มาเก็ต Beisia ในเมืองรองจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และจัดการส่งเสริมการจำหน่ายอาหารไทยผ่านรถอาหารเคลื่อนที่หรือฟู้ดทรัก เป็นต้น

โดยมีแผนจะจัดกิจกรรมเพิ่มเติมอีก เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมเมนูข้าวกล่องอาหารไทย โดยใช้ข้าวหอมมะลิจำหน่ายในโรงอาหารตามออฟฟิศต่าง ๆ รวมทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง และส่งเสริมเมนูอาหารไทยที่ประกอบด้วยข้าวไรซ์เบอรี่จำหน่ายในร้านอาหารภายในโรงแรมระดับ 5 ดาว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ข้าวไทยให้อยู่ในระดับพรีเมี่ยม และเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Foodex 2022 โดยจัดสาธิตการทำอาหารไทยเพื่อสุขภาพ โดยใช้ข้าวหอมมะลิและข้าวไรซ์เบอรี่ เป็นต้น

ส่วนตลาดจีน ได้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมสินค้าข้าวไทยทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ เช่น การจำหน่ายข้าวไทยผ่านร้านขายสินค้าไทยบนแพลตฟอร์มเถาเป่า การจัดกิจกรรม In-Store Promotion การร่วมมือกับร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ส่งเสริมการใช้ข้าวไทยในเมนูอาหาร และให้ KOL รีวิว รวมถึงการจัดทำคลิปวิดีโอสั้นเพื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ข้าวไทยให้เพิ่มขึ้น

ขณะที่ตลาดฟิลิปปินส์ ได้จัดกิจกรรมขยายตลาดข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจัดประชุมหารือกับผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ และจัดกิจกรรมส่งเสริมข้าวไทยผลิตภัณฑ์ข้าวไทยภายใต้แคมเปญ Think Rice Think Thailand ร่วมกับซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ และตลาดมาเลเซีย ที่ได้มีการจัดกิจกรรมในลักษณะเดียวกัน

ปัจจุบัน ในช่วง 9 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ก.ย.) ญี่ปุ่นนำเข้าข้าวจากไทย ปริมาณ 215,580 ตัน เพิ่มขึ้น 11% มูลค่า 3,364 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.3% โดยนำเข้าข้าวขาว 100% เป็นหลัก รองลงมา คือ ข้าวเหนียวและข้าวหอมมะลิ จีนนำเข้าปริมาณ 339,177 ตัน เพิ่มขึ้น 89.15% มูลค่า 5,716.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.19% มาเลเซีย นำเข้ามูลค่า 30.97 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5,239.66% และฟิลิปปินส์ นำเข้าปริมาณ 95,999 ตัน เพิ่มขึ้น 51.09%