“พาณิชย์” ปล่อยรถธงฟ้าเคลื่อนที่สู่ชุมชนทั่วประเทศ ช่วยลดค่าครองชีพปชช.ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากที่ได้เกิดอุทกภัยในพื้นที่หลายจังหวัด รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ที่ได้เกิดฝนตกหนักทำให้มีน้ำท่วมขังหลายชุมชน ในช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายน 2560 ประกอบกับพื้นที่ในจังหวัดภาคใต้ที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนตุลาคม – ปัจจุบัน ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือลดค่าครองชีพให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยภายหลังน้ำลด รวมทั้งผู้มีรายได้น้อยในแหล่งชุมชนต่างๆ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน จึงได้ดำเนินการจัดรถยนต์โมบายธงฟ้า 60 คัน บรรทุกสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพไปจำหน่ายให้กับประชาชนในราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ภายใต้ “โครงการธงฟ้าเคลื่อนที่สู่ชุมชน : Mobile Unit” โดยดำเนินการทั้งในส่วนภูมิภาค และกรุงเทพมหานคร

โดยพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง จำนวน 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ พิจิตร อุทัยธานี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท มหาสารคาม กาฬสินธุ์ เลย ตาก นนทบุรี นครปฐม และสมุทรปราการ รวม 69 จุด ซึ่งได้ดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึง ธันวาคม 2560

พื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑลที่มีพื้นที่ติดต่อกับกรุงเทพมหานคร จำนวน 450 จุด ซึ่งดำเนินการตั้งแต่วันนี้ – 28 ธันวาคม 2560

พื้นที่ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ตรัง สุราษฏร์ธานี ยะลา ปัตตานี สตูล นราธิวาส เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมการจัดโมบายธงฟ้าหลังน้ำลด
สำหรับการจัดจัดหน่ายสินค้าในครั้งนี้จะนำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพไปจำหน่ายในราคาต่ำกว่าท้องตลาดทั่วไป ประมาณร้อยละ 30 – 45 จำนวน 4 ชนิด ได้แก่ ข้าวสารหอมมะลิ (บรรจุถุง 5 กิโลกรัม) ราคาปกติถุงละ 185 บาท ลดเหลือ 105 บาทน้ำตาลทราย ราคาปกติกิโลกรัมละ 23.50 บาท ลดเหลือกิโลกรัมละ 16 บาท น้ำมันพืชปาล์มบรรจุขวด (1 ลิตร) ราคาปกติขวดละ 40 บาท ลดเหลือขวดละ 22 บาท ไข่ไก่ เบอร์ 2 (แผงละ 30 ฟอง) ราคาปกติแผงละ 90 บาท ลดเหลือแผงละ 50 บาท

Advertisment

ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์คาดว่าการจัดทำ “โครงการธงฟ้าเคลื่อนที่สู่ชุมชน : Mobile Unit” ทั้งในส่วนภูมิภาคและกรุงเทพมหานครในครั้งนี้ จะสามารถช่วยเหลือลดค่าครองชีพผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยภายหลังน้ำลดและผู้มีรายได้น้อยในแหล่งชุมชนทั่วประเทศ ประมาณ 60,000 ครัวเรือน และจะสามารถลดค่าครองชีพประชาชนได้ประมาณ 30 ล้านบาท