กอนช.ประกาศเฝ้าระวังน้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณแม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำโก-ลก ในช่วงวันที่ 25-28 กุมภาพันธ์ 2565
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 รายงานข่าวระบุ เนื่องจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ติดตามสถานการณ์ฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่าหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทยในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 ทำให้ภาคใต้ตอนล่าง มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ซึ่งกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ประกาศแจ้งเตือน ฉบับที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 แล้วนั้น
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 2 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ (ONE MAP) ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่าพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส มีปริมาณฝนตกหนัก มากกว่า 150 มิลลิเมตร
โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณแม่น้ำสายบุรีและแม่น้ำโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ทำให้มีปริมาณน้ำสะสมไหลลงแม่น้ำมากขึ้น จึงขอเน้นย้ำให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่จะเพิ่มขึ้น เสี่ยงน้ำล้นสูงกว่าตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในอำเภอบันนังสตา อำเภอรามัน จังหวัดยะลา อำเภอสายบุรี อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี และอำเภอแว้ง อำเภอสุคิริน อำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงปาดี อำเภอตากใบ อำเภอรือเสาะ อำเภอจะแนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ในช่วงวันที่ 25-28 กุมภาพันธ์ 2565
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1.ปรับแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ พร้อมพิจารณาความเหมาะสมในการระบายน้ำในลำน้ำ/แม่น้ำให้สอดคล้องกับการขึ้น-ลงของระดับน้ำทะเล
2.ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงแนวคันบริเวณริมแม่น้ำ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ และปิดท่อระบายน้ำทิ้งริมแม่น้ำ เพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน รวมถึงการเตรียมความพร้อมรับน้ำหลากป้องกันน้ำท่วมให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที
4.ประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์