มนัญญาสั่งลุยสกัดส้มโอสวมสิทธิใบรับรอง GAP ก่อนส่งออกจีน

มนัญญาสั่งเข้มกรมวิชาการเกษตรลุยตรวจผลผลิตส้มโอส่งออกป้องปัญหาสวมสิทธิ สวพ. 2 เจอคาล้ง จ.พิจิตร แจ้งส่งออก 22.15 ตัน พบผลผลิตมาจากแปลง GAP แค่ 1.30 ตัน ที่เหลือกว่า 20 ตันทั้งขาวแตงกวาและทับทิมสยามย้อมแมวสวมสิทธิใบรับรอง GAP ระงับส่งออกทันที

วันที่ 18 มีนาคม 2565 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูกาลส่งออกผลไม้ของทุกภาคได้กำชับให้กรมวิชาการเกษตรเข้มงวดตรวจสอบและเฝ้าระวังปัญหาการนำผลไม้มาสวมสิทธิเป็นผลไม้ไทยและสวมใบรับรอง GAP เพื่อส่งออกไปประเทศที่ 3

มนัญญา ไทยเศรษฐ์

เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรในประเทศ และอาจทำให้มีแมลงศัตรูพืชกักกันที่ไม่เคยมีในประเทศติดเข้ามาแพร่ระบาดภายในประเทศ โดยสถานการณ์ล่าสุดได้รับรายงานจากกรมวิชาการเกษตร ว่าได้ระงับการส่งออกส้มโอที่โรงงานคัดบรรจุแห่งหนึ่ง ที่ตำบลโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร เนื่องจากนำส้มโอจำนวนหนึ่งมาสวมสิทธิใบรับรอง GAP เตรียมส่งออกไปจีน จึงได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรเข้มงวดตรวจสอบผลผลิตส้มโอที่จะส่งออกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการตรวจสอบปริมาณผลผลิตที่ขออนุญาตส่งออกว่าสัมพันธ์กับพื้นที่แปลง GAP หรือไม่

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 จ.พิษณุโลก (สวพ.2) ซึ่งเป็นหน่วยงานในส่วนภูมิภาคของกรมวิชาการเกษตร ดำเนินการตรวจโรงคัดบรรจุส้มโอในพื้นที่จังหวัดพิจิตรเพื่อตรวจสอบปริมาณผลผลิตที่ทำการส่งออกป้องกันการนำผลผลิตที่ไม่ผ่านการรับรองแหล่งผลิต GAP มาสวมสิทธิ รวมทั้งป้องกันการลักลอบนำเข้าส้มโอจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิเป็นส้มโอไทยแล้วส่งออกไปประเทศจีน

ซึ่งได้รับรายงานจากนางสาวฉันทนา คงนคร ผอ.สวพ. 2 ว่า จากการลงพื้นที่สุ่มตรวจโรงคัดบรรจุส้มโอในจังหวัดพิจิตรจำนวน 3 โรง พบข้อสังเกตในโรงคัดบรรจุผลไม้ส่งออกจำนวน 1 โรง ที่ ตำบลโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร มีผลผลิตส้มโอเตรียมส่งออกจำนวน 22.15 ตัน ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าเป็นส้มโอที่เป็นผลผลิตมาจากแปลง GAP จำนวน 1.30 ตัน ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 20.85 ตัน เป็นผลผลิตที่นำมาสวมสิทธิแปลง GAP จึงไม่อนุญาตให้นำส้มโอที่สวมสิทธิใบรับรอง GAP จำนวนดังกล่าวส่งออกไปจีน

จากการตรวจสอบพบว่าตามฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร มีพื้นที่ปลูกส้มโอที่ให้ผลผลิตแล้ว จำนวน 14,705 ไร่ และมีผลผลิตทั้งหมด 18,510 ตัน และจากฐานข้อมูลการรับรองแหล่งผลิต GAP พืช ของกรมวิชาการเกษตร มีพื้นที่ที่ผ่านการรับรองแหล่งผลิต GAP ส้มโอ จำนวน 484 ราย 713 แปลง 6,359 ไร่ และคาดการณ์ปริมาณผลผลิต 2,986 ตัน มีโรงคัดบรรจุส้มโอที่ขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืชกับกรมวิชาการเกษตรทั้งหมด 11 โรง มีปริมาณผลผลิตที่ได้ตรวจสอบข้อมูลเลขทะเบียนสวน GAP เพื่อการส่งออก ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 ถึงปัจจุบัน จำนวน 3,649 ตัน ซึ่งปริมาณการส่งออกสูงที่สุดในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2565 ปริมาณ 2,655 ตัน

“เพื่อให้การส่งออกส้มโอไทยไปประเทศจีนเป็นส้มโอที่ได้มาตรฐาน GAP ตามที่ประเทศคู่ค้ากำหนด จึงได้กำชับให้ สวพ. 2 แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบผลผลิตที่จะทำการส่งออกโดยตรวจสอบปริมาณการส่งออกว่ามีความสัมพันธ์กับการรับรองแหล่งผลิต GAP พืชหรือไม่ เนื่องจากส้มโอจัดเป็นสิ่งต้องห้ามตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507

ซึ่งการนำเข้าหรือนำผ่านต้องผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืชก่อนจึงจะสามารถนำเข้าหรือนำผ่านมาในราชอาณาจักรได้ เพื่อรักษาภาพลักษณ์คุณภาพสินค้าผลไม้ของไทยตามข้อสั่งการของนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์