“สนธิรัตน์” เผยเร่งหารือโครงสร้างองค์กร กำลังคน อัตราค่าจ้าง คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า เสนอครม.พิจารณาต้นปี’61

“สนธิรัตน์” เผยเร่งหารือโครงสร้างองค์กร กำลังคน อัตราค่าจ้าง คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า เพื่อเสนอ ครม.พิจารณาต้นปี 61 นี้ ขณะที่ประเทศอาเซียนมีกฎหมายหมดแล้ว เนื่องหลายประเทศให้ความสำคัญมากขึ้น

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2560 ว่า ที่ประชุมได้เสนอแผนโครงสร้างขององค์กร อัตรากำลังคน ค่าตอบแทน แผนยุทธศาสตร์ รวมไปถึงพันธกิจที่จะต้องดำเนินการ และที่สำคัญการตั้งคณะกรรมการสรรหา เพื่อสรรหาคณะกรรมการแข่งขันทางการ โดยให้เร่งจัดทำข้อสรุปเพื่อที่จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา โดยจะต้องนำเสนอให่ได้ในช่วงต้นปี 2561 นี้

ภายหลังจากที่พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเดือนกรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมายที่ประกาศใช้ ก็ต้องจำเป็นในการจัดทำโครงสร้างขององค์กร กำลังคนที่จะดำเนินการ แผนยุทธสาสตร์ และที่สำนคัญพันธกิจขององค์กรที่จะต้องเดินหน้า หลักๆในมีด้วยกัน 2 พันธกิจ คือ การบังคับใช้กฎหมาย และการป้องปรามซึ่งเรื่องนี้เป็นส่วนที่สำคัญ ที่องค์กรนี้จะต้องสร้างเครือข่าย ให้ความรู้กับทั้งองค์กรภาคเอกชน และภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา

“ยุทธศาสตร์ขององค์กรนั้นก็ต้องสอดคล้องไปกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นการยกระดับการแข่งขันของประเทศ และต้องยอมรับว่าประเทศในอาเซียนมีกฎหมายดังกล่าวแล้ว ขณะที่กัมพูชา ก็อยู่ระหว่างการยกร่าง ซึ่งหลายประเทศให้ความสำคัญในเรื่องกฎหมายการแข่งขันเป็นอย่างมาก สำหรับประเทศไทยก็ต้องยกระดับเพื่อการแข่งขันของประเทศด้วย”

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า วิสัยทัศน์ที่องค์กรนี้จะเดินหน้า คือการกำกับดูแลการค้าให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และเป็นที่ยอมรับจากทุกภาคส่วน เนื่องจากที่ผ่านมาแม้มีกฎหมายแต่การบังคับใช้ยังไม่สามารถทำได้เต็มที่ แต่เมื่อมีการจัดตั้งเป็นองค์กรมีกฎหมายในดูแลก็ต้องการดำเนินการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และต้องรับว่าการเจรจาการค้ากับต่างประเทศ เรื่องกฎหมายแข่งขันก็เป็นส่วนสำคัญที่หลายประเทศให้ความสนใจ อาทิ สหภาพยุโรป เองก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้และการที่ยุโรปจะสานสัมพันธ์กับไทยในสิ่งที่ดำเนินการไปแล้ว การมีกฎหมายนี้ก็ยิ่งทำให้การเจรจาการค้าดีขึ้น ซึ่งก็ต้องเร่งผลักดันให้เกิดขึ้นโดยเร็ว