ส่งออกไทย ก.พ. 65 โต 16.2% หวั่นสงครามกระทบยอด มี.ค.

จุรินทร์ ส่งออกไทย

จุรินทร์ เผยส่งออกเดือน ก.พ. 65 โต 16.2% ขณะที่นำเข้าขยายตัว 16.8% เป็นผลจากการเร่งส่งเสริมการส่งออก ชี้สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังไม่กระทบ หวั่นจะมีผลต่อการส่งออกเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้ พร้อมต้องเตรียมแผนรับมือ

วันที่ 24 มีนาคม 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พณ) ครั้งที่ 1/2565 ว่า การส่งออกไทยเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ขยายตัว 16.2% มีมูลค่า 23,483 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุด ขณะที่การนำเข้าขยายตัว 16.8% มีมูลค่า 23,359 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ไทยได้ดุลการค้า 123 ล้านเหรียญสหรัฐ

การส่งออกเดือนมกราคม 2565 ที่ขยายตัว เป็นผลมาจาก ปัจจัย 1. การเพิ่มศักยภาพการส่งออกสินค้าเกษตร ตามยุทธศาสตร์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” เช่น การส่งออกข้าว ซึ่งปีนี้คาดว่าจะสามารถส่งออกข้าวบรรลุเป้าหมายได้ไม่ต่ำกว่า 7 ล้านตันและจะมีตลาดเพิ่มในตะวันออกกลาง 2. ตลาดใหม่ที่ตั้งเป้าไว้ โดยเฉพาะตลาดตะวันออกกลาง เริ่มปรากฏผลคือซาอุดีอาระเบีย

3. กระทรวงพาณิชย์ประสานงานกับแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างประเทศในการบรรจุสินค้าและบริการของไทยลงบนแพลตฟอร์มประสบความสำเร็จ ล่าสุดแพลตฟอร์มไต้หวัน สามารถนำสินค้าไทยไปขายบนแพลตฟอร์ม 3 แพลตฟอร์ม 1) PChome 2) PINKOI online marketplace เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้า BCG และ 3) แพลตฟอร์มออนไลน์ของไปรษณีย์ไต้หวัน

4. การส่งเสริมกิจกรรม Online Business Matching หรือ OBM จับคู่ค้าขายออนไลน์และส่งเสริมการขายตามห้างสรรพสินค้าในต่างประเทศ นอกจากนี้ ภาคการผลิตทั่วโลกยังขยายตัวดูจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตโลก (Global Manufacturing PMI)อยู่เหนือระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 20 จะเป็นโอกาสสำหรับการส่งออกของไทย และสถานการณ์ค่าระวางเรือและการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น

แต่อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องติดตามที่จะกระทบต่อการส่งออกไทย คือ สถารการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ โลจิสติกส์ ค่าระวางเรือ ตู้คอนเทนเนอร์ เป็นสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์จะต้องติดตามกับภาคเอกชนเพื่อแก้ปัญหาร่วมกันต่อไปในรูปของคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์)

“เดือนกุมภาพันธ์นี้ จะยังไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่เดือนมีนาคมและเมษายนต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต้องร่วมแก้ปัญหาร่วมกับเอกชนต่อไป พร้อมทั้งประสานข้อมูลของทูตพาณิชย์ทั่วโลกว่าจะมีผลกระทบด้านไหนเพื่อเตรียมการรับมือ”

ส่วนการส่งออก 2 เดือน (มกราคม-กุมภาพันธ์ 2565) ขยายตัว 12.2% มีมูลค่า 44,741 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ การนำเข้า ขยายตัว 18.7% มีมูลค่า 47,144 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ไทยขาดดุล 2,403 ล้านเหรียญสหรัฐ

ตลาดที่ไทยส่งออกขยายตัวในระดับสูง 10 อันดับแรก ประกอบด้วย 1.รัสเซีย ขยายตัว 33.4% 2.อาเซียน 5 ประเทศ ขยายตัว 31.5% 3.ฮ่องกง ขยายตัว 29.8% 4.เกาหลีใต้ ขยายตัว 28.9% 5.สหรัฐฯ ขยายตัว27.2% 6.อินเดีย ขยายตัว 23% 7.ไต้หวัน ขยายตัว 17.7% 8.สหราชอาณาจักร ขยายตัว17.3% 9.CLMV ขยายตัว 14.4% 10. ตะวันออกกลาง ขยายตัว 13.8%