อว. เร่งประสานพานักศึกษาไทย 37 คนในอิสราเอลกลับประเทศ 

สถานการณ์ความไม่สงบ อิสราเอล - ปาเลสไตล์
ภาพจาก AFP

กระทรวง อว.ประสานพานักศึกษา ไทย 37 คนในอิสราเอลกลับประเทศ ขณะนี้ทุกคนปลอดภัย สถานทูตไทยดูแลใกล้ชิด พร้อมติดตามนักศึกษาอีกหลายพันคนในประเทศรอบข้าง เผยส่วนใหญ่ยังไม่ประสงค์เดินทางกลับช่วงนี้ 

วันที่ 15 ตุลาคม 2566 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า

ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของนักศึกษาและบุคลากรสถาบันอุดมศึกษาและหน่วยงานในสังกัดและกำกับของกระทรวง อว. ที่กำลังศึกษา ฝึกงาน ทำวิจัย หรือฝึกอบรมอยู่ในประเทศดังกล่าวและอาจมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังนักศึกษาและบุคลากรที่อยู่ในประเทศข้างเคียง 

กระทรวง อว. จึงได้ขอความร่วมมือจากสถาบันอุดมศึกษาในสังกัดให้ข้อมูลจำนวนนักศึกษาและบุคลากรอุดมศึกษาของไทยที่กำลังศึกษา ฝึกงาน ทำวิจัย หรือฝึกอบรมในประเทศอิสราเอล และประเทศข้างเคียง เช่น  อิรัก อิหร่าน อียิปต์ จอร์แดน และตุรกี

ล่าสุดมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ (มนร.) แจ้งว่ามีนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการความร่วมมือจัดการเรียนการสอนด้านการเกษตร ระหว่าง มนร. กับ Arava International Center for Agricultural Training (AICAT) ประเทศอิสราเอล จำนวน 37 คน โดยเป็นนักศึกษาจาก มนร. จำนวน 30 คน และจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร (มรภ.สกลนคร) จำนวน 7 คน ที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวยังอยู่ในพื้นที่ และจากการตรวจสอบพบว่า ทุกคนยังปลอดภัยดี ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยง และอยู่ในการติดตามดูแลของสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศอิสราเอลอย่างใกล้ชิด 

ขณะเดียวกัน กระทรวง อว. ได้เร่งประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการให้นักศึกษาเดินทางกลับแล้ว 

“ขณะนี้ กระทรวง อว. ได้เร่งไปยังทุกสถาบันอุดมศึกษาและหน่วยงานในสังกัดให้ตรวจสอบข้อมูลว่ามีนักศึกษาหรือบุคลากรอยู่ในอิสราเอลและประเทศข้างเคียงในช่วงนี้หรือไม่ เพื่อรวบรวมไว้เป็นข้อมูล หากสถานการณ์ทวีความรุนแรงและกระทบไปยังประเทศข้างเคียง เราจะได้เข้าไปช่วยเหลือได้ทันท่วงที” นางสาวศุภมาสกล่าว 

ติดตามนักศึกษาหลายพันคนในประเทศรอบข้าง

ด้านแพทย์หญิงเพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายจากนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.กระทรวง อว. ให้ติดต่อประสานงานและติดตามรวบรวมข้อมูลนักศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาโดยเฉพาะที่มาจากพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์ รวมถึงประเทศรอบข้าง 

โดยในเบื้องต้นนอกจากจะมีรายงานจากมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์แจ้งมาว่ามีนักศึกษา 37 คนที่เข้าร่วมโครงการความร่วมมือจัดการเรียนการสอนด้านเกษตร หรือโครงการ AICAT ที่ประเทศอิสราเอลแล้ว ตนได้ประสานงานไปที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอบต.) ซึ่งมีข้อมูลของนักศึกษาที่ไปศึกษาต่อยังประเทศรอบข้าง 

ทราบว่า ขณะนี้มีนักศึกษาไทยจากพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไปศึกษายังประเทศเหล่านั้นเป็นจำนวนหลายพันคน อาทิ อียิปต์ จำนวน 3,000 คน ซีเรีย จำนวน 300 คน จอร์แดน จำนวน 19 คน ตุรกี จำนวน 18 คน อิหร่าน จำนวน 7 คน และเลบานอน จำนวน 3 คน เป็นต้น 

นอกจากนี้ ยังเร่งสำรวจข้อมูลอื่น ๆ เช่น กลุ่มที่ไปศึกษาดูงาน ฝึกอบรมในประเทศข้างเคียง ที่กระทรวง อว. ยังไม่มีข้อมูลอีกด้วย

แพทย์หญิงเพชรดาวกล่าวต่อว่า สำหรับนักศึกษาในโครงการ AICAT จำนวน 37 คน ซึ่งอยู่ในประเทศอิสราเอล การดำเนินงานของกระทรวง อว. ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อให้นักศึกษาเดินทางกลับอย่างเร่งด่วน ซึ่งนักศึกษาทั้ง 37 คนอยู่ในพื้นที่ ARAVA ที่เป็นพื้นที่ปลอดภัย และทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศอิสราเอล รวมถึงองค์กร AICAT ที่นักศึกษาไปฝึกงานก็ดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด

“หลังจากนี้กระทรวง อว. จะทำงานร่วมกับ ศอบต.อย่างใกล้ชิด เนื่องจาก ศอบต. เป็นหน่วยงานที่รวบรวมข้อมูลของนักศึกษาในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศต่าง ๆ ไว้อย่างครบถ้วน เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้กับนักศึกษาที่ต้องการประสานความช่วยเหลือ 

นอกเหนือจากการติดต่อผ่านทางสถานทูตที่เป็นแกนกลาง ซึ่งเบื้องต้นทราบมาว่านักศึกษาที่อยู่ในประเทศรอบข้างยังปลอดภัยดีและส่วนใหญ่ยังไม่ประสงค์จะเดินทางกลับในช่วงเวลานี้ แต่อย่างไรก็ตามทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะติดตามดูแลนักศึกษาเหล่านี้อย่างใกล้ชิดต่อไป”