16 ปี “บรอมส์โกรฟ” ตั้งเป้าฮับ Boarding School

โรงเรียนนานาชาติบรอมส์โกรฟ ประเทศไทย เป็นโรงเรียนที่นำระเบียบปฏิบัติตามขนบประเพณีอังกฤษอย่างแท้จริงมาประยุกต์ใช้ อย่างตอบโจทย์กับการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน ซึ่งหมายรวมถึงหลักสูตรการศึกษาอังกฤษที่ใช้กันอย่างแพร่หลายจนเกิดการยอมรับด้วย

ถึงวันนี้ บรอมส์โกรฟ ประเทศไทยก้าวสู่ปีที่ 16 และพร้อมเดินหน้าวิสัยทัศน์โรงเรียนนานาชาติหลักสูตรอังกฤษ โดยย้ำมาตรฐานคุณภาพการศึกษา-วินัยเด่น พร้อมวางเป้าหมายเป็นฮับของ boarding school ในเอเชีย

“เฮาเวิร์ด วู” หัวหน้าฝ่ายการตลาด และพัฒนาธุรกิจ โรงเรียนนานาชาติ บรอมส์โกรฟ ประเทศไทย กล่าวว่า โรงเรียนนานาชาติบรอมส์โกรฟนำหลักสูตรการศึกษาที่มีคุณภาพสูงของโรงเรียนบรอมส์โกรฟ ประเทศอังกฤษ ที่ก่อตั้งมานานกว่า 460 ปีมาใช้ ซึ่งบรอมส์โกรฟ ประเทศไทย ถือเป็นแห่งแรกในเอเชียที่ได้รับอนุมัติจากโรงเรียนแม่ให้มาเปิดแฟรนไชส์นอกประเทศอังกฤษ

ปัจจุบัน บรอมส์โกรฟ ประเทศไทย มี 2 วิทยาเขต คือ วิทยาเขตรามคำแหง 164 เปิดสอนนักเรียนตั้งแต่อายุ 2-6 ปี และวิทยาเขตสุวินทวงศ์ เปิดสอนนักเรียนตั้งแต่อายุ 6-18 ปี โดยจุดเด่นของบรอมส์โกรฟ มีอยู่ 5 ด้านหลัก ๆ คือ

หนึ่ง small class sizes การเรียนการสอนแบบกลุ่มเล็ก โดยสัดส่วนจำนวนครูต่อนักเรียนอนุบาล คือ 1 ต่อ 15, สัดส่วนครูต่อนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา คือ 1 ต่อ 22 และการออกทริปแต่ละครั้ง สัดส่วนครูต่อนักเรียน คือ 1 ต่อ 5 เพื่อการดูแลนักเรียนให้ทั่วถึง

สอง personalized learning การเรียนรู้ตามศักยภาพเฉพาะบุคคล

สาม expert British teachers ใช้อาจารย์เจ้าของภาษา ปัจจุบันมีครูผู้สอนกว่า 80 คน โดย 98% เป็นครูชาวอังกฤษที่มีประกาศนียบัตรวิชาชีพครูโดยเฉพาะ และมีประสบการณ์ในการสอนโรงเรียนนานาชาติทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 3 ปี

สี่ outstanding boarding provision มีระบบหอพักสำหรับนักเรียนประจำที่มีคุณภาพ

ห้า proven academic excellence ความเป็นเลิศด้านวิชาการที่ได้รับการพิสูจน์ โดยโรงเรียนผ่านการประเมินคุณภาพการศึกษาจากทั้งองค์กรในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย

“เฮาเวิร์ด วู” กล่าวด้วยว่า เราควบคุมจำนวนนักเรียนให้ไม่เกิน 800 คน เพราะต้องการสร้างสภาพแวดล้อมในโรงเรียนที่ทำให้เด็กรู้สึกอบอุ่น คนไม่พลุกพล่าน และมีครูดูแลทั่วถึง ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมามีจำนวนเด็กเพิ่ม 30% ทั้งนักเรียนไทย และต่างชาติ แต่จะเป็นในส่วนของนักเรียนที่มาอยู่ระบบหอพักเป็นส่วนใหญ่ เพราะพ่อแม่ยุคใหม่มีหัวคิดที่ทันสมัยและอิสระ จึงอยากปลูกฝังให้บุตรหลานรู้จักใช้ชีวิตด้วยตนเอง แต่ยังอยู่ในการดูแลที่ปลอดภัย

“แต่ละชั้นของหอพักจะมีครูดูแลเด็ก ๆ ทุกชั้น รวมไปถึงมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ภายในหอพัก เช่น การติว การออกกำลังกาย และการสอน life skills ด้วยความพร้อมของระบบ boarding ที่เรามี จึงทำให้โรงเรียนของเราเป็นเป้าหมายของผู้ปกครองในหลาย ๆ ประเทศในเอเชีย จนเกิดการบอกต่อปากต่อปาก ดังนั้น เด็กต่างชาติที่เดินทางมาอยู่ระบบ boarding จึงมีตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษา และตอนนี้มีนักเรียนระบบ boarding กว่า 140 คน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่มาจากฮ่องกง และจีน”

“ที่สำคัญ เรามีแผนจะสร้างหอพักเพิ่มขึ้น เพราะคาดว่าจะมีจำนวนนักเรียนมาใช้ระบบ boarding มากขึ้นกว่า 30% นอกจากแผนการลงทุนด้านหอพักแล้ว ในช่วงที่ผ่านมาเราลงทุนสร้างศูนย์ศิลปะการแสดงโอเรียนเต็ลสยาม (Oriental Siam Performing Arts Centre) ขนาด 500 ที่นั่ง โดยศูนย์ดังกล่าวเข้ามารองรับหลักสูตรและกิจกรรมสำหรับด้านศิลปะ และการแสดงให้กับนักเรียนของบรอมส์โกรฟ เพื่อให้พวกเขามีเวทีในการพัฒนา และแสดงออกถึงศักยภาพอย่างสูงสุด”

โดยเฉพาะเมื่อโลกกำลังเข้าสู่ยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทต่อการพลิกผันสิ่งต่าง ๆ ยิ่งจำเป็นต้องให้ความสำคัญต่อการปรับตัวของเด็กในทุก ๆ ด้าน ไม่ใช่เพียงสอนด้านวิชาการเพื่อให้พวกเขาแข่งขันสอบให้ได้เกรด 4 ในทางกลับกัน เราเชื่อว่าเด็กจะเก่งและประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่จำเป็นต้องเป็นเด็กที่มีเกรดสูง แต่ต้องเป็นเด็กที่มีความสามารถนอกเหนือด้านวิชาการ เช่น ด้านดนตรี และศิลปะ นอกจากนั้นต้องได้รับการปลูกฝังทักษะ 4 ด้าน ดังนี้ด้วย

หนึ่ง creativity ความสามารถในการจินตนาการเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ หรือความคิดใหม่ ๆ วิธีการใหม่ ๆ ที่เรียกว่านวัตกรรม

สอง critical thinking ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีเหตุผล และต้องสามารถตัดสินคุณค่าของเรื่องต่าง ๆ ที่คิดด้วย

สาม teamwork ทักษะการทำงานเป็นทีม

สี่ reflective ทักษะสะท้อนที่กระทำได้ใน 3 ลักษณะ คือ การสะท้อนเนื้อความ (content), ความรู้สึก (feeling) และประสบการณ์ (experience)

ถึงตรงนี้ “เฮาเวิร์ด วู” กล่าวถึงเป้าในอนาคตว่า โรงเรียนบรอมส์โกรฟ ประเทศไทย วางเป้าเป็นโรงเรียนหลักสูตรนานาชาติแบบประจำอันดับ 1 ภายใน 5 ปีนับจากนี้ และเป็นอันดับ 1 โรงเรียนหลักสูตรนาชาติ แบบไปกลับให้ได้ภายใน 5 ปีเช่นกัน

ปัจจุบันบรอมส์โกรฟติดอันดับ 1 ใน 5 หรือท็อปไฟฟ์โรงเรียนหลักสูตรนานาชาติในประเทศไทย โดยมีจำนวนนักเรียนกว่า 480 คน และมีนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาไปแล้ว

กว่า 2,000 คน ซึ่งเป็นศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงมากมายทั้งในแวดวงธุรกิจ สังคม บันเทิง รวมถึงมีเด็กที่สามารถสอบเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยระดับโลกอย่าง มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ และมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ เป็นต้น

จึงนับว่าเป็นโรงเรียนที่ดึงดูดนักเรียนไทย และต่างชาติ ด้วยมาตรฐานหลักสูตรการศึกษาจากอังกฤษ และมีระบบหอพักที่ดีพร้อม ทำให้เป้าหมายของโรงเรียนในการก้าวเป็นฮับ boarding school ของเอเชีย เป็นไปได้ไม่ยาก