การศึกษานิวซีแลนด์พัฒนาทักษะเด็กมัธยม กรุยทางสู่อาชีพที่ใช่ชีวิตที่ชอบ

โตขึ้นอยากเป็นอะไร? คำถามที่คุณครูมักจะถามอยู่เป็นประจำ หากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนคำตอบยอดฮิตที่ได้รับคงหนีไม่พ้น หมอ ครู ตำรวจ วิศวะกร แต่สำหรับเด็กในยุคใหม่คำตอบที่ได้รับอาจไม่ได้จำกัดอยู่แค่ 3-4 อาชีพหลักๆ เท่านั้น เพราะเด็กในยุคดิจิทัลมีความคิดหลากหลายนอกกรอบ

เพื่อค้นหาศักยภาพและความถนัดในตัวเองให้กับน้องๆ ชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลาย ในการคิดก่อนวางแผนเรียน เพื่อก้าวไปสู่อาชีพที่ใช่และชีวิตที่ชอบ หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ จึงจัดอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “Design Thinking and Creative Storytelling” หรือ “ถ้าเลือกอาชีพในอนาคตได้ ฉันอยากจะเป็น…เพราะ…”

โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการคิดเชิงวิเคราะห์ให้กับน้องๆ เยาวชนไทย เพื่อให้น้องๆ สามารถเลือกเส้นทางการเรียน และอาชีพที่ตนเองรักได้อย่างมั่นใจและตรงกับความชอบ ซึ่งโครงการนี้ได้ดำเนินงานร่วมกับ a-chieve ณ เลิร์นฮับเซนเตอร์ สยามสแควร์ เมื่อเร็วๆ นี้

“ช่อทิพย์ ประมูลผล” ผู้จัดการตลาดประจำประเทศไทย หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า ใครๆ ก็อยากประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในหน้าที่การงาน ดังนั้น การรู้ก่อน คิดได้ก่อน แล้วทำก่อน ประสบความสำเร็จก่อนถือเป็นกำไรชีวิต

“เมื่อก่อนเราจะเลือกเรียนอะไรก็ได้ให้จบปริญญา แล้วค่อยออกมาเลือกสมัครงานว่าจะทำอาชีพอะไรตามสายที่เรียนมา แต่ปัจจุบันสังคมเปลี่ยนไปแล้ว นักเรียนนักศึกษาต้องคิดให้ได้ก่อนว่าคุณอยากทำอาชีพแบบไหน แล้วหาว่าต้องเรียนอะไร ก่อนจะไปทำอาชีพนั้น แล้วหาอีกว่ามหาวิทยาลัยไหนที่สามารถตอบโจทย์เราได้ เพื่อเดินทางตามความฝัน พร้อมสร้างรายได้ เพื่อเป็นทุนในการดำเนินชีวิต”

ทั้งนั้น ระบบการศึกษานิวซีแลนด์มีการสนับสนุนให้นักเรียนได้พัฒนาตัวเองให้เป็นบุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถคิดนอกกรอบ กล้าคิด กล้าแสดงออก และประยุกต์ใช้ความรู้ต่างๆ ไปสู่การฝึกปฏิบัติจริง

“พรจรรย์ ไกรวัตนุสสรณ์” ผู้ก่อตั้ง School of Changemakers กล่าวว่า ทุกๆ อาชีพจะมีทักษะและความสามารถที่แตกต่างกัน การที่จะเข้าถึงความเข้าใจและความชอบของตัวเองต้องจะต้องมีแรงกระตุ้น หรือมีการแนะแนวทางที่ชัดเจนให้กับเด็กๆ จะทำให้เกิดการเรียนรู้ และความพยายามใฝ่หาความรู้ต่างๆ จากการเข้าร่วมกิจกรรมทั้งที่โรงเรียน มหาวิทยาลัย และกิจกรรมเพื่อสังคม

“สิ่งเหล่านี้จะทำให้เด็กๆ มีโอกาสได้เจอกับความหลากหลาย พบปะผู้คน ได้แนะนำตัวเองให้กับคนที่เราอยากร่วมงานด้วย รู้ว่าควรจะเริ่มต้นจากจุดไหน และรู้ความต้องการของตัวเองได้เร็วขึ้น ซึ่งการออกมาพบปะผู้คนและการร่วมกิจกรรมอบรม เข้าค่ายต่างๆ จะทำให้เด็กๆ เกิดแรงบันดาลใจ กระตุ้นสมองให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และมีความกล้าที่จะสร้าง และสานต่อความคิดได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีมุมมองที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับประเด็นทางสังคม และการฝึกทักษะการคิดในวิเคราะห์ปัญหาทางสังคมได้”

หนึ่งในผู้ร่วมกิจกรรมอย่าง “ณภัทร อุนนะนันทน์” นักเรียนชั้นม.2 โรงเรียนปรินส์รอยแยลวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ เล่าว่า ตนชอบถ่ายรูปมาก เพราะการถ่ายรูปสามารถบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ได้มากมาย โดยสื่อถึงอารมณ์ และบรรยากาศโดยรอบได้ครบถ้วน

“ผมอยากจะสร้างเรื่องราวจากภาพถ่ายออกมาเป็นภาพยนตร์ ซึ่งผมอยากจะเป็น Film maker หรือผู้สร้างหนัง เพราะอยากให้คนได้เห็นเรื่องราวที่ผมจะถ่ายทอด โดยผมเก็บเงินซื้อกล้องจากเงินค่าขนมในการไปโรงเรียน และได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวเป็นทำให้ผมมีความมั่นใจ และเชื่อมั่นว่าผมจะทำได้”

ขณะที่ “ฟิตดาว หีมปอง” นักเรียนชั้นม.2 โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย จ.สตูล บอกว่า ตนอยากเป็นนักการทูต เพราะชอบการพบปะผู้คน และญาติที่ทำงานในกระทรวงการต่างประเทศได้จุดประกายให้ตนอยากทำงานเพื่อประเทศ

“หนูตั้งใจศึกษาภาษาต่างประเทศ โดยเริ่มจากภาษาอังกฤษ และจะเรียนภาษาจีน และภาษาอื่นๆ เพิ่มเติม ที่สำคัญคือหนูอยากจะไปศึกษาวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ ทั่วโลกด้วย”