“ภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์” ลูกชายของ “เพชร โอสถานุเคราะห์” นั่งเก้าอี้อธิการบดี ม.กรุงเทพ คนล่าสุด ประสบการณ์บริหารธุรกิจมากมาย ประกาศจุดยืนนำมหาวิทยาลัยเข้าสู่ยุคใหม่ ผลักดันศักยภาพสู่การเป็นผู้นำในโลกการศึกษา
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 นายภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งอธิการบดี มหาวิทยาลัยกรุงเทพอย่างเป็นทางการ ภายหลังร่วมงานกับมหาวิทยาลัยมาเป็นเวลากว่า 5 ปี ขณะนี้พร้อมแล้วที่จะนำพามหาวิทยาลัยก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเรียนการสอน โดยยังคงชูเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็น DNA ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มาใช้เป็นรากฐานในการบริหารจัดการ การแก้ไขปัญหา และการออกแบบเชิงโครงสร้างต่าง ๆ ในทุกมิติ เพื่อค้นหาวิธีการใหม่ ๆ ที่ดีและเหมาะสมที่สุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ด่วน! วอยซ์ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
โดยจะนำจุดเด่นเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ผสมผสานเข้ากับกลยุทธ์การสร้างความยืดหยุ่นปรับตัวให้ไวเพื่อสร้างโซลูชั่นใหม่ ๆ ผลักดันให้ ม.กรุงเทพ ก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำในโลกการศึกษา
ขณะเดียวกันยังคงให้ความสำคัญกับพันธกิจสำคัญของมหาวิทยาลัย คือ การสานต่อมหาวิทยาลัยกรุงเทพให้เป็นสถาบันการศึกษาที่จุดประกายความคิดสร้างสรรค์อย่างมีคุณภาพ เป็นผู้นำในการศึกษาระดับอุดมศึกษาในภูมิภาคและมีความยั่งยืน พร้อมทั้งผลิตบัณฑิตที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ
ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่องค์กรและสังคมเศรษฐกิจยุคใหม่ตามวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยที่วางไว้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยการศึกษาสร้างสรรค์ มีคุณภาพและเป็นผู้นำ
“ระยะเวลากว่าครึ่งศตวรรษของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ก้าวขึ้นสู่สถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น Creative University แห่งแรกและเพียงแห่งเดียวของประเทศ ด้วยคุณภาพ มาตรฐาน และศักยภาพโดดเด่น ภายใต้จุดแข็งของแนวความคิดการจุดประกายการสร้างสรรค์บวกจิตวิญญาณนักธุรกิจ หรือ Creative+Entrepreneur จึงทำให้บัณฑิตของเรามีความแตกต่างจากมหาวิทยาลัยแห่งอื่น ๆ
ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของ ม.กรุงเทพ ที่ได้นำวิสัยทัศน์การบริหารงานด้วยแนวคิด Think big. Make a difference. Create a limitless future. มาใช้เพื่อมีส่วนผลักดันให้ ม.กรุงเทพ ก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำในโลกการศึกษา”
“เราพร้อมมุ่งมั่นพัฒนามหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในโลกการศึกษา ทั้งในประเทศไทยและอาเซียน ดังนั้นเราจึงยังคงให้ความสำคัญในความร่วมมือกับภาคธุรกิจและเอกชนชั้นนำมากมายทั้งในและต่างประเทศ
เช่นที่ผ่านมาได้มีความร่วมมือกับเบิร์กลีย์ สกายเดก ฟันด์ หนึ่งในองค์กรให้คำปรึกษาและแหล่งเงินทุนกับสตาร์ตอัพซึ่งเป็นองค์กรที่จัดตั้งโดย University of California, Berkeley เปิดโอกาสให้นักศึกษาเสนอแผนธุรกิจต่อคณะกรรมการที่มีประสบการณ์ในการปลุกปั้นสตาร์ตอัพให้ประสบความสำเร็จมาแล้ว
ซึ่งเป็นตัวอย่างอย่างเป็นรูปธรรมของการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้ร่วมสมัย เหมาะสมและตรงกับความต้องการของตลาด รวมถึงเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เข้าร่วมโครงการฝึกงานสหกิจกับองค์กรชั้นนำ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานแบบมืออาชีพ และเตรียมความพร้อมก่อนก้าวสู่โลกการทำงาน หรือการเป็นเจ้าของธุรกิจในอนาคต”
นายภูรัตน์กล่าวต่อว่า โดยตลอดระยะเวลากว่า 60 ปี นับตั้งแต่มหาวิทยาลัยได้ก่อตั้งเมื่อปี 2505 มหาวิทยาลัยกรุงเทพได้ผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ ตอบสนองภาครัฐและเอกชนของไทยตลอดจนองค์กรระดับนานาชาติจำนวนมาก โดยมหาวิทยาลัยได้ให้ความสำคัญกับการออกแบบการเรียนการสอนด้วยหลักสูตรที่พร้อมตอบโจทย์อนาคตที่เปลี่ยนไป พร้อมทั้งยังจัดสภาพแวดล้อมของมหาวิทยาลัยที่มีนวัตกรรมและส่งเสริมศักยภาพของนักศึกษา ทั้งอาคารเรียนที่ตอบโจทย์การเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ศูนย์การเรียนรู้ควบคู่กับห้องปฏิบัติการและอุปกรณ์ที่ครบครันและทันสมัย เพื่อสร้างความพร้อมและเสริมทักษะการเรียนรู้ของนักศึกษาอย่างไร้ขีดจำกัด
พร้อมกันนี้ยังได้นำ Technology เข้ามาผสมผสานในการเรียนการสอน เช่นโครงการอบรมวิชาชีพ “พัฒนายกระดับกำลังคนทักษะสูงด้าน VFX สำหรับอุตสาหกรรมเกมและแอนิเมชั่นระดับสากล” ภายใต้ความร่วมมือกับสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ Virtual Production & Immersive Technology Upskill Workshops สาขาวิชาภาพยนตร์ คณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์และโครงการเด็กชอบโชว์ “เกม” ของคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำ พร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้ยุค Generative AI ในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลให้สถานการณ์ของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ประสบการณ์บริหารธุรกิจมากมาย
นอกจากการได้เข้ามาบริหารมหาวิทยาลัยกรุงเทพกว่า 5 ปี โดยสายงานหลักเกี่ยวกับการพัฒนากลยุทธ์และงานด้านพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) ของมหาวิทยาลัย นายภูรัตน์ อธิการบดีคนปัจจุบันยังมีประสบการณ์ในวงการธุรกิจและการบริหารมากมาย อาทิ
- เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทลงทุนบริหารทรัพย์สินครอบครัวโอสถานุเคราะห์ มีบทบาทสำคัญในการสร้างทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน การลงทุน และวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science)
- เป็นหนึ่งในคณะทำงานในการนำบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- รวมทั้งเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาของบริษัท ไนน์ เบซิล กรุ๊ป (9 Basil Group) บริษัทเอกชนร่วมทุนระหว่างไทย-สิงคโปร์ด้านการลงทุนส่วนบุคคลชั้นนำ (Private Equity) โดยเครือได้ดำเนินการเข้าซื้อกิจการเงินติดล้อจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เตรียมเปิดตัวพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย
อีกทั้งนายภูรัตน์ยังมีแพสชั่นในวงการศิลปะ ซึ่งเร็ว ๆ นี้ตั้งใจจะเปิดตัว DIB Bangkok พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่ริเริ่มโดยนายเพชร โอสถานุเคราะห์ ผู้เป็นบิดา ปัจจุบันนายภูรัตน์ดำรงตำแหน่งประธานพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้ และมีความมุ่งมั่นจะสร้างสรรค์ศักยภาพของดิบ บางกอก ให้ทัดเทียมกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะระดับโลก นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทชิเซโด้ (ไทยแลนด์) จำกัด
5 ปีร่วมบริหาร ม.กรุงเทพ
ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปีที่นายภูรัตน์เข้าร่วมบริหารมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้มีส่วนริเริ่มโครงการที่จะสร้างศักยภาพ ความยั่งยืน ประสบการณ์ และบรรยากาศที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในมหาวิทยาลัยมากมาย อาทิ โครงการด้านพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการดูบีดู ที่พักอาศัยของนักศึกษาที่ทันสมัยในพื้นที่วิทยาเขตรังสิต ร่วมพัฒนาหลักสูตรปริญญาโทออนไลน์ ซึ่งจะเปิดรับสมัครนักศึกษาเร็ว ๆ นี้
ตลอดระยะเวลาการบริหารงานที่ผ่านมา ทำให้แนวความคิดการบริหารสถาบันการศึกษาตกผลึก จนสร้างความมั่นใจในฐานะผู้นำที่น่าจับตามอง และพร้อมนำพามหาวิทยาลัยกรุงเทพก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยและอาเซียนได้อย่างแน่นอน