“ภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์” นั่งเก้าอี้อธิการบดี ม.กรุงเทพ คนล่าสุด

นายภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

“ภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์” ลูกชายของ “เพชร โอสถานุเคราะห์” นั่งเก้าอี้อธิการบดี ม.กรุงเทพ คนล่าสุด ประสบการณ์บริหารธุรกิจมากมาย ประกาศจุดยืนนำมหาวิทยาลัยเข้าสู่ยุคใหม่ ผลักดันศักยภาพสู่การเป็นผู้นำในโลกการศึกษา 

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 นายภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งอธิการบดี มหาวิทยาลัยกรุงเทพอย่างเป็นทางการ ภายหลังร่วมงานกับมหาวิทยาลัยมาเป็นเวลากว่า 5 ปี ขณะนี้พร้อมแล้วที่จะนำพามหาวิทยาลัยก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเรียนการสอน โดยยังคงชูเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็น DNA ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มาใช้เป็นรากฐานในการบริหารจัดการ การแก้ไขปัญหา และการออกแบบเชิงโครงสร้างต่าง ๆ ในทุกมิติ เพื่อค้นหาวิธีการใหม่ ๆ ที่ดีและเหมาะสมที่สุด

โดยจะนำจุดเด่นเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ผสมผสานเข้ากับกลยุทธ์การสร้างความยืดหยุ่นปรับตัวให้ไวเพื่อสร้างโซลูชั่นใหม่ ๆ ผลักดันให้ ม.กรุงเทพ ก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำในโลกการศึกษา

ขณะเดียวกันยังคงให้ความสำคัญกับพันธกิจสำคัญของมหาวิทยาลัย คือ การสานต่อมหาวิทยาลัยกรุงเทพให้เป็นสถาบันการศึกษาที่จุดประกายความคิดสร้างสรรค์อย่างมีคุณภาพ เป็นผู้นำในการศึกษาระดับอุดมศึกษาในภูมิภาคและมีความยั่งยืน พร้อมทั้งผลิตบัณฑิตที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ

ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่องค์กรและสังคมเศรษฐกิจยุคใหม่ตามวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยที่วางไว้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยการศึกษาสร้างสรรค์ มีคุณภาพและเป็นผู้นำ

“ระยะเวลากว่าครึ่งศตวรรษของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ก้าวขึ้นสู่สถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น Creative University แห่งแรกและเพียงแห่งเดียวของประเทศ ด้วยคุณภาพ มาตรฐาน และศักยภาพโดดเด่น ภายใต้จุดแข็งของแนวความคิดการจุดประกายการสร้างสรรค์บวกจิตวิญญาณนักธุรกิจ หรือ Creative+Entrepreneur จึงทำให้บัณฑิตของเรามีความแตกต่างจากมหาวิทยาลัยแห่งอื่น ๆ

ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของ ม.กรุงเทพ ที่ได้นำวิสัยทัศน์การบริหารงานด้วยแนวคิด Think big. Make a difference. Create a limitless future. มาใช้เพื่อมีส่วนผลักดันให้ ม.กรุงเทพ ก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำในโลกการศึกษา”

“เราพร้อมมุ่งมั่นพัฒนามหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในโลกการศึกษา ทั้งในประเทศไทยและอาเซียน ดังนั้นเราจึงยังคงให้ความสำคัญในความร่วมมือกับภาคธุรกิจและเอกชนชั้นนำมากมายทั้งในและต่างประเทศ

เช่นที่ผ่านมาได้มีความร่วมมือกับเบิร์กลีย์ สกายเดก ฟันด์ หนึ่งในองค์กรให้คำปรึกษาและแหล่งเงินทุนกับสตาร์ตอัพซึ่งเป็นองค์กรที่จัดตั้งโดย University of California, Berkeley เปิดโอกาสให้นักศึกษาเสนอแผนธุรกิจต่อคณะกรรมการที่มีประสบการณ์ในการปลุกปั้นสตาร์ตอัพให้ประสบความสำเร็จมาแล้ว

ซึ่งเป็นตัวอย่างอย่างเป็นรูปธรรมของการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้ร่วมสมัย เหมาะสมและตรงกับความต้องการของตลาด รวมถึงเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เข้าร่วมโครงการฝึกงานสหกิจกับองค์กรชั้นนำ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานแบบมืออาชีพ และเตรียมความพร้อมก่อนก้าวสู่โลกการทำงาน หรือการเป็นเจ้าของธุรกิจในอนาคต”

นายภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

นายภูรัตน์กล่าวต่อว่า โดยตลอดระยะเวลากว่า 60 ปี นับตั้งแต่มหาวิทยาลัยได้ก่อตั้งเมื่อปี 2505 มหาวิทยาลัยกรุงเทพได้ผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ ตอบสนองภาครัฐและเอกชนของไทยตลอดจนองค์กรระดับนานาชาติจำนวนมาก โดยมหาวิทยาลัยได้ให้ความสำคัญกับการออกแบบการเรียนการสอนด้วยหลักสูตรที่พร้อมตอบโจทย์อนาคตที่เปลี่ยนไป พร้อมทั้งยังจัดสภาพแวดล้อมของมหาวิทยาลัยที่มีนวัตกรรมและส่งเสริมศักยภาพของนักศึกษา ทั้งอาคารเรียนที่ตอบโจทย์การเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ศูนย์การเรียนรู้ควบคู่กับห้องปฏิบัติการและอุปกรณ์ที่ครบครันและทันสมัย เพื่อสร้างความพร้อมและเสริมทักษะการเรียนรู้ของนักศึกษาอย่างไร้ขีดจำกัด

พร้อมกันนี้ยังได้นำ Technology เข้ามาผสมผสานในการเรียนการสอน เช่นโครงการอบรมวิชาชีพ “พัฒนายกระดับกำลังคนทักษะสูงด้าน VFX สำหรับอุตสาหกรรมเกมและแอนิเมชั่นระดับสากล” ภายใต้ความร่วมมือกับสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ Virtual Production & Immersive Technology Upskill Workshops สาขาวิชาภาพยนตร์ คณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์และโครงการเด็กชอบโชว์ “เกม” ของคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำ พร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้ยุค Generative AI ในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลให้สถานการณ์ของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ประสบการณ์บริหารธุรกิจมากมาย

นอกจากการได้เข้ามาบริหารมหาวิทยาลัยกรุงเทพกว่า 5 ปี โดยสายงานหลักเกี่ยวกับการพัฒนากลยุทธ์และงานด้านพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) ของมหาวิทยาลัย นายภูรัตน์ อธิการบดีคนปัจจุบันยังมีประสบการณ์ในวงการธุรกิจและการบริหารมากมาย อาทิ

  • เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทลงทุนบริหารทรัพย์สินครอบครัวโอสถานุเคราะห์ มีบทบาทสำคัญในการสร้างทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน การลงทุน และวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science)
  • เป็นหนึ่งในคณะทำงานในการนำบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
  • รวมทั้งเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาของบริษัท ไนน์ เบซิล กรุ๊ป (9 Basil Group) บริษัทเอกชนร่วมทุนระหว่างไทย-สิงคโปร์ด้านการลงทุนส่วนบุคคลชั้นนำ (Private Equity) โดยเครือได้ดำเนินการเข้าซื้อกิจการเงินติดล้อจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

นายภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

เตรียมเปิดตัวพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย

อีกทั้งนายภูรัตน์ยังมีแพสชั่นในวงการศิลปะ ซึ่งเร็ว ๆ นี้ตั้งใจจะเปิดตัว DIB Bangkok พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่ริเริ่มโดยนายเพชร โอสถานุเคราะห์ ผู้เป็นบิดา ปัจจุบันนายภูรัตน์ดำรงตำแหน่งประธานพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้ และมีความมุ่งมั่นจะสร้างสรรค์ศักยภาพของดิบ บางกอก ให้ทัดเทียมกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะระดับโลก นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทชิเซโด้ (ไทยแลนด์) จำกัด

5 ปีร่วมบริหาร ม.กรุงเทพ

ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปีที่นายภูรัตน์เข้าร่วมบริหารมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้มีส่วนริเริ่มโครงการที่จะสร้างศักยภาพ ความยั่งยืน ประสบการณ์ และบรรยากาศที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในมหาวิทยาลัยมากมาย อาทิ โครงการด้านพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการดูบีดู ที่พักอาศัยของนักศึกษาที่ทันสมัยในพื้นที่วิทยาเขตรังสิต ร่วมพัฒนาหลักสูตรปริญญาโทออนไลน์ ซึ่งจะเปิดรับสมัครนักศึกษาเร็ว ๆ นี้

ตลอดระยะเวลาการบริหารงานที่ผ่านมา ทำให้แนวความคิดการบริหารสถาบันการศึกษาตกผลึก จนสร้างความมั่นใจในฐานะผู้นำที่น่าจับตามอง และพร้อมนำพามหาวิทยาลัยกรุงเทพก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยและอาเซียนได้อย่างแน่นอน