ทปอ.รับมือทีแคสรอบรับตรงร่วม เลือกได้ 6 ลำดับ ประกาศผลอันดับเดียว สมัคร 17-29 เม.ย.ผ่านเว็บ

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม นางเพ็ญรัตน์ หงษ์วิทยากร รองเลขาธิการที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การรับสมัครบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ผ่านระบบการคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา หรือทีแคส ประจำปีการศึกษา 2562 รอบ 2 โควต้า ได้ปิดรับสมัครในวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งรอบนี้นักเรียนจะเข้าไปสมัครด้วยตนเองในมหาวิทยาลัยที่นักเรียนเลือก ทั้งนี้ จากรอบ 1 แฟ้มสะสมผลงาน และรอบ 2 โควต้า ทปอ.ไม่ได้รับแจ้งปัญหาใดๆ จากทางมหาวิทนยาลัย ถือว่าการสมัครทั้ง 2 รอบ ผ่านไปด้วยดี ไม่มีปัญหา ขั้นตอนต่อไป มหาวิทยาลัยต้องรอผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือ GPAX และผลคะแนนสอบต่างๆ เช่น คะแนนสอบ 9 วิชาสามัญ หรือคะแนนทดสอบวัดความถนัดทั่วไป หรือ GAT และการทดสอบวัดความถนัดทางวิชาการ/วิชาชีพ หรือ PAT จากสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ก่อน เพื่อให้มหาวิทยาลัยนำคะแนนเหล่านี้มาคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียน

“คาดว่าภายในต้นเดือนเมษายน ทุกมหาวิทยาลัยจะส่งข้อมูลจำนวนนักเรียนมายัง ทปอ.เพื่อให้ดำเนินตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ วันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา ทปอ.ได้เชิญตัวแทนมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมรับสมัครทีแคสมาชี้แจง และทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรับส่งข้อมูลจำนวนรับนักเรียน ในรอบที่ 2 ให้ ทปอ.ด้วย” นางเพ็ญรัตน์ กล่าว

นางเพ็ญรัตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนการเตรียมความพร้อมการรับสมัครทีแคส รอบ 3 รับตรงร่วมกัน ที่ ทปอ.จะเป็นหน่วยงานที่รับสมัครนักเรียนผ่านทางเว็บไซต์ ตั้งแต่วันที่ 17-29 เมษายนนี้ ทปอ.เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ ทดสอบระบบเพื่อรองรับนักเรียนที่เข้ามาสมัครจำนวนมาก ยืนยันว่าระบบไม่ล่มแน่นอน ทั้งนี้ อยากให้นักเรียนเลือกคณะ/สาขาวิชา ที่ต้องการเรียนก่อน โดยเรียงลำดับคณะ และสถาบัน ซึ่งนักเรียนสามารถสอบได้ 1 อันดับเท่านั้น ทั้งนี้ การเลือกสาขาวิชา และการชำระเงิน จะแยกกัน โดยนักเรียนเลือกอันดับที่ต้องการก่อน เช่น หากเลือกครบ 6 อันดับ จะจ่ายเงิน 650 บาท เพื่อยืนยันไว้ก่อนได้เลย แต่หากต้องการเปลี่ยนสาขาวิชา ระบบอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงข้อมูลสาขาวิชาได้ 3 ครั้ง จนถึงเวลาที่ระบบปิด ซึ่งการชำระเงินค่าสมัคร ทปอ.จะนับตามสาขาวิชาที่นักเรียนเลือก โดยคิดสาขาวิชาละ 100 บาท ค่าดำเนินการ 50 บาท โดยชำระเงินภายในเวลา 23.00 น.ของวันที่ 29 เมษายน

“ทั้งนี้ การเลือกคณะ สาขาวิชา ในรอบที่ 3 ขอให้นักเรียนคิดดีๆ ให้เลือกที่ใช่ สิ่งที่ตนเองรัก อย่าเลือกเพราะกระแสสังคม หรือเลือกเพราะพ่อแม่อยากให้เลือก ขอให้ปรึกษาพ่อแม่ให้ดี เพราะเชื่อว่าหากนักเรียนเลือกในสิ่งที่ใช่ และสิ่งที่ชอบ จะเป็นแรงผลักดันให้นักเรียนประกอบอาชีพในอนาคตได้ต่อไป” นางเพ็ญรัตน์ กล่าว

 

 

ที่มา : มติชนออนไลน์