กระทรวงอุดมศึกษา ระดม 100 มหาวิทยาลัย พัฒนา 500 หลักสูตรแห่งอนาคต

อว. เปิดแผนพัฒนากำลังคนประเทศ เชิญ 100 มหาวิทยาลัย – สถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ ระดมสมองพัฒนา 500 หลักสูตร Re skill – Up skill​ ตอบโจทย์อนาคต เสริมเขี้ยวเล็บรับตำแหน่งงานเกิดใหม่ 5 แสนตำแหน่ง พร้อมเปิดให้คนไทยช้อปหลักสูตรเติมทักษะงานยุคใหม่ ในงาน Future Career Expo 2020 วันที่ 27 – 29 มีนาคมนี้ ที่สามย่านมิตรทาวน์

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ตามที่มติที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ ครั้งที่ 3/2562 ได้มอบหมายให้กระทรวง อว. กำหนดหลักสูตรและสาขาการศึกษาเป้าหมาย และจัดทำกลไกการพัฒนาบุคลากรทักษะสูงร่วมกับภาคเอกชน และดำเนินการรับรอง ประกาศหลักสูตรและสาขาการศึกษาเป้าหมายร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

โดยล่าสุด กระทรวง อว. เชิญมหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษากว่า 100 แห่งทั่วประเทศ ผู้แทนจากหน่วยงานภายใต้ อว. และผู้แทนจากภาคเอกชน เข้าร่วมประชุมจัดทำหลักสูตรประกาศนียบัตร (Non-Degree) เพื่อยกระดับทักษะกำลังคนของประเทศ รองรับกระแสความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ด้วยการพัฒนาทักษะ (Re Skill – Up Skill) ที่ตอบโจทย์ประเทศในอนาคต

“การประชุมมหาวิทยาลัยทั่วประเทศในวันนี้นับเป็นการ Kick off เพื่อปรับบทบาทของมหาวิทยาลัยในการสร้างคนครั้งสำคัญ ที่มหาวิทยาลัยจะต้องสร้างหลักสูตรที่ตอบโจทย์ทักษะแห่งอนาคตให้ได้ไม่น้อยกว่า 500 หลักสูตร และประมาณช่วงปลายเดือนมีนาคม มหาวิทยาลัยจากทั่วประเทศจะมารวมตัวกันอีกครั้งในงาน Future Career Expo 2020 เพื่อมอบของขวัญให้กับนักศึกษา บัณฑิตจบใหม่ และวัยทำงาน โดยการรวบรวมหลักสูตร Non-Degree กว่า 500 หลักสูตร ครอบคลุมกว่า 100 ทักษะแห่งอนาคต ทั้งด้าน Hard Skill และ Soft Skill ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อเป็นการสนับสนุนให้เกิดทักษะแห่งอนาคต และเพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนาตนเองให้กับคนไทย อว. ได้ออกมาตรการสร้างแรงจูงใจผ่านการแจกคูปอง Re skill – Up skill มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท เพื่อให้ผู้สนใจนำคูปองมาใช้สมัครเป็นส่วนลดหลักสูตรเพื่อ Re skill – Up skill โดยจะเริ่มแจกในงาน Future Career Expo”

สำหรับหลักสูตรประกาศนียบัตร หรือ non degree เพื่อการยกระดับทักษะกำลังคนของประเทศให้เกิดเป็นรูปธรรม ได้มอบหมายให้ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) จัดทำรายละเอียดของทักษะเพื่ออนาคตของอุตสาหกรรม S-Curve หรือ Future Skill Set ใน 12 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และอุตสาหกรรมพัฒนาทักษะและกำลังคน เพื่อให้มหาวิทยาลัยนำแนวทางไปผลิตหลักสูตร non degree ที่เป็นทักษะเพื่ออนาคตและเป็นที่ต้องการของตลาด

​โดย Future Skill Set ที่จัดทำขึ้นจะครอบคลุมทั้งด้าน Hard Skill และ Soft Skill แบ่งได้เป็น 10 กลุ่มทักษะ ประกอบด้วย ทักษะอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ ทักษะอุตสาหกรรมดิจิทัล ทักษะอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ ทักษะอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร ทักษะอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ทักษะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวชุมชน ทักษะด้าน Smart Farming ทักษะด้าน Elderly Care ทักษะภาษาอังกฤษ และทักษะอื่นๆ

“ผมได้มอบโจทย์ในการดำเนินการคือภารกิจสร้างคนถือเป็นวาระแห่งชาติ โดย อว.จะให้ความสำคัญ Life Long Education หรือการศึกษาตลอดชีวิตมากกว่า การศึกษาแบบ Higher Education วันนี้สิ่งที่มหาวิทยาลัยต้องตอบโจทย์จะไม่โฟกัสที่กลุ่มนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่มีในระบบแค่เพียง 3-4 ล้านคนเท่านั้น แต่จะต้องโฟกัสกลุ่มคนทำงาน จำนวนกว่า 38 ล้านคน รวมถึงกลุ่มสูงอายุ จำนวน 11 ล้านคน ให้มีการพัฒนาทักษะ (Re Skill-Up Skill) พร้อมทั้งพัฒนาทักษะใหม่ๆ (New Skill) เพื่อรับกระแสความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ที่ส่งผลให้อาชีพเก่ากำลังจะถูกทดแทน นับจากนี้การศึกษาแบบ “non degree” จะมีบทบาทมากในอนาคต”

ด้าน ดร. สัมพันธ์ ศิลปนาฎ ประธานกรรมการบริหารส่งเสริมและพัฒนากำลังคนให้มีทักษะขั้นสูงตามความต้องการของประเทศ เปิดเผยว่า จากกระแสความเปลี่ยนแปลงส่งผลให้อาชีพเก่ากำลังถูกทดแทน โดยจากข้อมูลของ World Economy Forum รายงานว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้งานเก่าจะหายไป 77 ล้านงาน แต่จะมีงานใหม่มาทดแทนอีกกว่า 130 ล้านงาน ในอีก 2 ปีข้างหน้า และมีคนมากถึงกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลกที่จะต้อง Re Skill – Up Skill​ ความรู้ตัวเองในอีก 10 ปีข้างหน้าเพื่อให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง

“จากข้อมูลของ World Economy Forum ผมมองว่าเป็นโอกาสของคนไทยที่จะสามารถเข้าถึงงานได้มากขึ้นจากงานใหม่ที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น และเนื่องจากเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะใหม่ๆ ก็ส่งผลให้คนไทยมีโอกาสมีรายได้จากงานสูงขึ้น มีความมั่นคงทางรายได้ ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น และมีความสุขกับการทำงานมากขึ้น อว. เห็นโอกาสตรงนี้ จึงอยากชวนคนไทยมา Re skill – Up skill เพื่อรองรับโอกาสที่กำลังจะเกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น รัฐบาลยังได้ออกมาตรการเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจ ด้วยการแจกคูปอง Re skill – Up skill มูลค่า 1,000 บาท และ 2,000 บาท เพื่อเป็นส่วนลดในการลงเรียนหลักสูตรที่เป็นทักษะตามความต้องการของตลาดในอนาคต โดยแจกคูปองให้รวมประมาณ 10,000 คน”

​ดร.สัมพันธ์ กล่าวต่อว่า การหารือกับผู้แทนจากภาคอุดมศึกษา ผู้แทนจากหน่วยงาน อว. และภาคเอกชน ครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของทุกภาคส่วนในการร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนากำลังคนของประเทศ มหาวิทยาลัยก็พร้อมที่จะก้าวออกมาจากการสอนแบบเดิม คือ เรียน 4 ปี รับใบปริญญา มาสู่การพัฒนาหลักสูตรระยะสั้น Non Degree ทั้งในรูปแบบ Offline และ Online ที่มุ่งเน้นให้เกิดทักษะในการทำงาน มากกว่าความรู้ที่จบแค่ในห้องเรียน

ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูลการศึกษาความต้องการบุคลากรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) * พบว่าภายใน 5 ปี นับจากนี้มีความต้องการบุคลากรสูงถึง 475,000 คน ครอบคลุมทุกระดับการศึกษาตั้งแต่อาชีวศึกษาจนถึงปริญญาเอก โดยแบ่งเป็นความต้องการแรงงานในระดับอาชีวศึกษา 253,000 คน ระดับปริญญาตรี 212,000 คน ระดับปริญญาโท-เอก 8,600 คน รวมทั้งยังมีตำแหน่งงานใหม่นอกเหนือพื้นที่เขต EEC อีกมากมาย รวมกว่า 5 แสนตำแหน่งงาน