หุ้น-การเงิน

ดอลลาร์อ่อนค่า หลังตัวเลขเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าคาด

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันที่ 15 มกราคม 2561 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (15/1) ที่ 31.89/91 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (12/1) ที่ 31.96/98 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12/1) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือน ธ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือน พ.ย. ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคประจำเดือน ธ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% เท่ากับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ แต่ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 0.4% นอกจากนี้หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐยังตกอยู่ในความเสี่ยงถูกชัตดาวน์ภายในสัปดาห์นี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เปิดเผยว่า เขาอาจยกเลิกข้อตกลงเกี่ยวกับนโยบายรับคนเข้าเมืองของสหรัฐ ที่จัดทำขึ้นบนความรอมชอมระหว่างพรรคเดโมแครตกับพรรครีพับลิกัน ซึ่งก่อให้เกิดกระแสความกังวลว่า ทั้งสองพรรคอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในเรื่องการรับผู้อพยพได้ ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 31.90-31.96 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 31.92/94 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับค่าเงินยูโรวันนี้ (15/1) เปิดตลาดที่ระดับ 1.2208/09 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (12/1) ที่ระดับ 1.3125/26 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณเตรียมคุมเข้มนโยบายการเงิน ขณะที่เศรษฐกิจยุโรปฟื้นตัวขึ้น โดย ECB เปิดเผยในรายงานการประชุมประจำเดือน ธ.ค.ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB จะทำการทบทวนแนวทางการสื่อสารของ ECB ในต้นปีนี้ และจะทำการปรับการใช้ถ้อยคำในแถลงการณ์ของการประชุมอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวมากขึ้น นอกจากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของ ECB แล้ว สกุลเงินยูโรยังแข็งค่าขึ้นหลังจากรายงานที่ว่า พรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) และพรรคสหภาพสังคมคริสเตียน (CSU) ของนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และพรรคสังคมประชาธิปไตย (SPD) สามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.2186-1.2246 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.2243/45 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับค่าเงินเยนในวันนี้ (15/1) เปิดตลาดที่ระดับ 110.67/68 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (12/1) ที่ระดับ 111.01/04 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยวันนี้ (15/1) นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในที่ประชุมผู้จัดการสาขาประจำภูมิภาคของ BOJ ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วประเทศมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นสู่ระดับเป้าหมายของ BOJ ที่ 2% เนื่องจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากมาตรการผ่อนคลายการเงินของ BOJ ถึงแม้อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นในเดือน พ.ย.ขยายตัวเพียง 0.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่นายคุโรดะกล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นแตะระดับ 2% โดยได้ปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวในภาคการผลิต และการคาดการณ์เงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นในระยะกลางจนถึงระยะยาว ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 110.53-111.18 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 110.58/60 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในช่วงต้นสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตของญี่ปุ่น (15/1) ดุลการค้าของยูโรโซน (15/1) ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนี (16/1) ดัชนีราคาผู้บริโภคของอังกฤษ (16/1) ดัชนีราคาผู้ผลิตของอังกฤษ (16/1) ดัชนีราคาผู้บริโภคของยูโรโซน (17/1) ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ (17/1) อัตราการว่างงานของออสเตรเลีย (17/1)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -1.4/-1.2 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -5.0/-4.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ