เลขาฯกอช.คนใหม่ ลุยแผนงานปี’61 ตั้งเป้าหาสมาชิกใหม่เพิ่มเกือบ 120% เผยปี’60 ผลตอบแทนลงทุนโต 4%

กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. เผยผลตอบแทนการลงทุนให้เงินออมของสมาชิก ปี 2560 เติบโตร้อยละ 4 ส่วนผู้ที่ยังไม่มาสมัคร กอช. เพื่อรับสิทธิ์รัฐสมทบเงินออมมีกว่า 19.4 ล้านคน จากแรงงานนอกระบบที่มีคุณสมบัติทั้งหมดกว่า 20 ล้านคน ขณะที่ทิศทางปี 2561 เน้นกระตุ้นให้นักเรียนนักศึกษาสมัครเป็นสมาชิก พร้อมเพิ่มความสะดวกการสมัครและบริการสมาชิก โดยใช้เทคโนโลยีและความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ 10 แห่ง ส่วนการลงทุนยังเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ความมั่นคงสูงมากกว่าร้อยละ 80 โดยปรับทิศทางการลงทุนเพื่อมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากขึ้นให้สมาชิก

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. เปิดเผยว่า ผลตอบแทนการลงทุนของ กอช. ในปี 2560 สร้างผลตอบแทนการลงทุนให้เงินออมของสมาชิก โดยคำนวณตามมูลค่าหน่วยลงทุน(Net Asset Value:NAV) เติบโตร้อยละ 4 ซึ่งเป็นการลงทุนภายใต้กรอบนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงมากกว่าร้อยละ 80 และลงทุนในหลักทรัพย์อื่นตามที่คณะกรรมการ กอช. กำหนด โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ อาทิ พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตราสารหนี้ภาคเอกชน

ด้านจำนวนสมาชิก กอช. ในปี 2560 พบว่า มีผู้ที่ยังไม่มาสมัครเป็นสมาชิก กอช. เพื่อรับสิทธิ์รัฐสมทบเงินออมกว่า 19,400,000 คน จากกลุ่มแรงงานนอกระบบที่มีสิทธิ์ทั้งหมดกว่า 20,000,000 คน ส่วนผู้ที่มาสมัครเป็นสมาชิก กอช. แล้ว เพื่อรับสิทธิ์รัฐสมทบเงินออม จากข้อมูล ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2560 อยู่ที่ 530,417 คน ส่วนใหญ่อยู่ใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 45.1 ภาคกลาง ร้อยละ 22 ภาคเหนือ ร้อยละ 13 ภาคใต้ ร้อยละ 10.1 หากแบ่งสัดส่วนตามกลุ่มอาชีพมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ เกษตรกร ร้อยละ 54.7 ผู้ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ ร้อยละ 19 ผู้มีอาชีพค้าขาย ร้อยละ 11

สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2561 ตั้งเป้าให้มีผู้มาสมัครเป็นสมาชิก กอช. เพิ่มอีกประมาณ 700,000 คน รวมเป็น 1,200,000 คน หรือเพิ่มเกือบ 120% จึงต้องให้น้ำหนักภารกิจด้านการให้ความรู้การวางแผนเกษียณแก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีระยะเวลาออมยาว คือ นักเรียนและนักศึกษาที่เริ่มออมได้ตั้งแต่อายุ 15 ปี แต่ปัจจุบันมีผู้มาสมัครเพียงร้อยละ 2 จากจำนวนสมาชิก กอช. ทั้งหมด โดยงานที่ต้องขับเคลื่อนให้เห็นผลลัพธ์เป็นรูปธรรมคือโครงการสร้างครูต้นกล้าการออม และคัดเลือกสถานศึกษาที่มีความโดดเด่นด้านส่งเสริมการออมให้เป็น “โรงเรียนต้นกล้าการออม” พร้อมกับขยายผลการรณรงค์สร้างวินัยการออมไปยังกลุ่มเป้าหมายอื่นในพื้นที่ 10 จังหวัดที่จะดำเนินการก่อนในช่วงนี้ ซึ่งภารกิจการรณรงค์ส่งเสริมการออมเพื่อเพิ่มจำนวนผู้สมัครสมาชิก กอช. จะเป็นการขับเคลื่อนเร็วโดยร่วมกับหน่วยงานรัฐทั้ง 10 แห่ง ตามที่ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) “การส่งเสริมความร่วมมือการออมกับ กอช.” ที่จะเป็นความร่วมมือในหลากมิติ ทั้งการเพิ่มยอดสมาชิก การประชาสัมพันธ์ และความร่วมมือจัดโครงการสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และเสริมกำลังการออมให้กับสมาชิก กอช.

Advertisment

งานสำคัญอีกด้านคือการยกระดับคุณภาพการบริการสมาชิกและประชาชน ที่ กอช. จะเพิ่มการอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ โดยเร่งรัดบริการดิจิทัลออนไลน์ เพื่อให้บริการตรวจสอบคุณสมบัติผู้มีสิทธิสมัคร และให้สมาชิกตรวจสอบยอดเงินในบัญชีผ่าน Mobile Application ได้ภายในไตรมาส 2 ของปี การเพิ่มจุดรับสมัครและช่องทางการส่งเงินสะสม รวมไปถึงการปรับปรุงขั้นตอนกระบวนการด้านงานสมาชิกเพื่อลดความยุ่งยากและสมาชิกได้รับความสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดการจัดทำบัตรสิทธิประโยชน์เพื่อผู้เป็นสมาชิก กอช. ไว้ใช้แสดงตนเมื่อเข้าร่วมโครงการพิเศษต่างๆ กับ กอช. อีกด้วย

ขณะที่ด้านการลงทุนในปี 2561 กอช. ยังคงลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง มากกว่าร้อยละ 80 อาทิ เงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ภาคเอกชน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามที่กำหนด รวมถึงมุ่งเน้นการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทอื่นๆ ไม่เกินร้อยละ 20 เช่น ตราสารทุน(หุ้น) หน่วยลงทุนประเภทกองทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการลงทุนปัจจุบันของ กอช. และมีการปรับทิศทางการลงทุนสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับสมาชิก เพื่อให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากขึ้น โดยในด้านการลงทุนอาจเผชิญความท้าทายจากความผันผวนของตลาดมากขึ้น แต่เป็นเพียงความผันผวนระยะสั้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการออมระยะยาวของสมาชิกหากสมาชิกมีการออมจนครบกำหนดอายุ 60 ปี ซึ่งจะทำให้สมาชิกมีเงินออมเพียงพอ มีโอกาสได้รับผลประโยชน์มากขึ้นด้วย

กอช.เป็นเครื่องมือการวางแผนเกษียณที่โดดเด่นด้านสิทธิพิเศษที่รัฐมอบให้สมาชิก ทั้งการสมทบเงินออมสูงสุด 1,200 บาท/ปี สิทธิ์การได้รับบำนาญตลอดชีพ การค้ำประกันดอกผลการลงทุนเพื่อคุ้มครองเงินต้นสำหรับผู้ที่ออมจนถึงอายุ 60 ปี รวมถึงสิทธิ์การลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวนเงินออม สำหรับประชาชนที่ประสงค์จะรับสิทธิ์การเป็นสมาชิก กอช. สามารถนำบัตรประชาชนไปติดต่อสมัครได้ที่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. ธอส. ทุกสาขา สำนักงานคลังจังหวัดทุกแห่ง เครือข่ายสถาบันการเงินชุมชน และเครือข่ายรับสมัครสมาชิก กอช. ทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนเงินออม โทร.02-017-0789 ในเวลาทำการ วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30-17.30 น. เว็บไซต์ กอช. www.nsf.or.th / Facebook : กองทุนการออมแห่งชาติ-กอช. / Line: @nsf.th / E-mail: [email protected] …. กอช. คุณออม รัฐช่วยออม คุณได้บำนาญ