ส่อง 10 หุ้น”ปันผลกลางปี”แจ่ม โบรกแนะดักซื้อล่วงหน้าลุ้นฟันกำไร 2 เด้ง

โบรกฯสแกน 10 หุ้นพื้นฐานดี มีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสูงราว 1.5-3% จากผลประกอบการที่ดีในช่วงครึ่งปีแรกปี”60 ด้าน บล.เอเซีย พลัส แนะกลยุทธ์ดักซื้อล่วงหน้า 2 เดือน หวังฟันกำไร 2 เด้ง ทั้งเงินปันผล-กำไรจากการขายหุ้น

นางอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในช่วงระหว่างเดือน ส.ค.-ก.ย.ของทุกปี บริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) จะมีการทยอยประกาศจ่ายปันผลงวดระหว่างกาล ซึ่งราคาหุ้นของบริษัทที่ประกาศจ่ายปันผลมักปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากจะมีแรงซื้อเพื่อเก็งกำไรก่อนการจ่ายเงินปันผลเข้าไปดักทางล่วงหน้า ดังนั้นจึงประเมินว่าช่วงนี้เป็นโอกาสที่ดีในการเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าว

สำหรับงวดครึ่งปีแรกปี 2560 บล.ดีบีเอสฯได้เลือกหุ้นที่ทางฝ่ายวิจัยมีบทวิเคราะห์ครอบคลุมทั้งหมด และเน้นหุ้นที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ซึ่งพบว่ามีจำนวน 10 หุ้นที่พื้นฐานดีและคาดว่าจะให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลรอบครึ่งปีแรกที่เฉลี่ยประมาณ 1.5-3.0% ซึ่งกระจายตัวอยู่ในกลุ่มธนาคาร, สื่อสาร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ 1.ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) 2.บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) 3.บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) 4.บมจ.ปตท. (PTT) 5.บมจ.ไทยออยล์ (TOP) 6.บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) 7.บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) 8.บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) 9.บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) และ 10.บมจ.แสนสิริ (SIRI)

ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนแนะนำว่า หากเป็นกลุ่มนักลงทุนที่เน้นเก็งกำไรระยะสั้น (เล่นรอบ) ควรจะใช้วิธีดักซื้อล่วงหน้า โดยหากราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ก็เป็นโอกาสในการขายทำกำไรออกได้ ก่อนที่บริษัทจะขึ้นเครื่องหมาย XD (ผู้ซื้อหุ้นไม่มีสิทธิรับเงินปันผล) ส่วนนักลงทุนระยะยาวแนะนำให้ถือหุ้นจนถึงวันจ่ายเงินปันผลหรือถือยาวต่อเนื่องไปจนถึงการประกาศจ่ายเงินปันผลในงวดครึ่งปีหลังอีกรอบ

“หุ้นปันผลเป็นกลุ่มที่น่าสนใจตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะหุ้นที่จ่ายเงินปันผลออกมาต่อเนื่องทุกปี มักเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี ไม่อย่างนั้นก็คงไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ ดังนั้นจึงเหมาะกับนักลงทุนที่อยากได้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและราคาหุ้นไม่หวือหวามากนัก” นางอาภาภรณ์กล่าว

Advertisment

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า การลงทุนหุ้นปันผลเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงนี้ เพราะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนถึง 2 เด้ง ทั้งจากเงินปันผลและกำไรจากการขายหุ้น (แคปิตอลเกน) โดยจากข้อมูลสถิติ 4 ปีย้อนหลังที่ผ่านมา (2556-2559) พบว่าราคาหุ้นของกลุ่มที่มีการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจะได้รับการตอบสนองเชิงบวกและให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ซึ่งหากนักลงทุนเข้าซื้อก่อนวันขึ้นเครื่องหมาย XD ราว 1 เดือน และขายหลังวันขึ้นเครื่องหมาย XD ทันที ราคาหุ้นมักให้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 1.5%

อย่างไรก็ตามมี 6 บริษัทที่สถิติในช่วง 4 ปีย้อนหลังให้ผลตอบแทนสูงที่สุด (ซื้อก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD ราว 1 เดือน และขายหลังขึ้นเครื่องหมาย XD แล้ว 1 เดือน) ได้แก่ 1) KKP ให้ผลตอบแทนจากราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยราว 9% โดยมีโอกาสความน่าจะเป็นสูงถึง 100% อัตราการจ่ายเงินปันผลทั้งปี 2560 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 8.54% 2) บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) ผลตอบแทนเฉลี่ยจากการขายหุ้น 8.74% ความน่าจะเป็น 100% อัตราการจ่ายเงินปันผลทั้งปีนี้ระดับ 4.96%

3) LH ผลตอบแทนเฉลี่ย 6% ความน่าจะเป็น 100% อัตราการจ่ายเงินปันผลทั้งปีนี้ระดับ 6.90% 4) QH ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.17% ความน่าจะเป็น 75% อัตราการจ่ายเงินปันผลทั้งปีนี้

ระดับ 6.46% 5) BCP ผลตอบแทนเฉลี่ย 6.98% ความน่าจะเป็น 75% อัตราการจ่ายเงินปันผลทั้งปีนี้ระดับ 5.88% และ 6) บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.79% ความน่าจะเป็น 75% อัตราการจ่ายเงินปันผลทั้งปีนี้ระดับ 4.47%

Advertisment

“เทคนิคสำคัญในการเก็งกำไรในหุ้นปันผลคืออันดับแรกให้เลือกหุ้นที่มีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในระดับสูง เพราะนักลงทุนมีโอกาสได้รับเงินปันผลครึ่งหนึ่งของเงินปันผลทั้งปี ขณะที่ในช่วงปลายปีควรสลับไปหาหุ้นปันผลที่เน้นจ่ายปันผลงวดเดียวทั้งปี เพราะจะได้รับเงินปันผลที่สูงกว่าบริษัทที่จ่ายปีละหลาย ๆ งวด” นักวิเคราะห์กล่าว