กรุงไทย คาด กนง.ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องแตะ 2% ช่วงกลางปี’66

กรุงไทย
ภาพจากเฟซบุ๊ก Krungthai Care

Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย ประเมิน กนง.ขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป คาดครึ่งแรกของปี’66 ขึ้นดอกเบี้ยแตะ 2.00% ต่อปี ตามเศรษฐกิจฟื้นตัว หลังประชุมนัดสุดท้ายมีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.00% ต่อปี เป็น 1.25% ต่อปี

วันที่ 1 ธันวาคม 2565 นายฉมาดนัย มากนวล และนายชนม์นิธิศ ไชยสิงห์ทอง นักวิเคราะห์ Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุมครั้งที่ 6/2565 (ครั้งสุดท้ายของปี) ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี สู่ระดับ 1.25% ต่อปี โดยปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 (รวมทั้งสิ้น 0.75% ในปีนี้) ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้

เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนที่เป็นแรงส่งสำคัญ โดยภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจนตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งปรับดีขึ้นจากปัจจัยสนับสนุนด้านกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การจ้างงานและรายได้แรงงานที่สูงขึ้นและกระจายทั่วถึงมากขึ้น

แม้ว่าเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกให้ขยายตัวชะลอลง แต่เศรษฐกิจโดยรวมยังฟื้นตัวได้ใกล้เคียงเดิม ทั้งนี้ กนง. ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจในปี 2565 และปี 2566 เป็น 3.2% จาก 3.3% และ 3.7% จาก 3.8% ตามลำดับ ขณะที่คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2567 ขยายตัวที่ 3.9%

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2566 มีแนวโน้มสูงกว่าประมาณการเดิม คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2565 2566 และ 2567 จะอยู่ที่ 6.3% และ 3.0% และ 2.1% ตามลำดับ ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2566 คาดว่าสูงกว่าประมาณการเดิมที่ 2.6% จากการปรับเพิ่มขึ้นค่าไฟฟ้าเป็นสำคัญ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มทยอยลดลงต่อเนื่อง โดยในปี 2565 2566 และ 2567 อยู่ที่ 2.6% และ 2.5% และ 2.0% ตามลำดับ ส่วนอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังยึดเหนี่ยวอยู่ในกรอบเป้าหมาย

มาตรการปรับโครงสร้างหนี้ควรดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเห็นความสำคัญของการมีมาตรการเฉพาะจุดและแนวทางแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนสำหรับกลุ่มเปราะบาง โดยฐานะการเงินของผู้ประกอบการ SMEs และครัวเรือนบางส่วนยังเปราะบางจากรายได้ที่ฟื้นตัวไม่เต็มที่ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพและภาระหนี้ที่สูงขึ้น ขณะที่ธนาคารพาณิชย์มีระดับเงินกองทุนและเงินสำรองที่เข้มแข็ง

ภาวะการเงินโดยรวมยังผ่อนคลาย ต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนทยอยปรับสูงขึ้นสอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่โดยรวมยังเอื้อต่อการระดมทุน ปริมาณสินเชื่อและการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ยังขยายตัว ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบ ดอลลาร์ สรอ. เคลื่อนไหวผันผวนสูงจากการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักเป็นสำคัญ ทั้งนี้ กนง. ประเมินว่ายังต้องติดตามพัฒนาการในตลาดการเงินและความผันผวนในอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ Krungthai COMPASS คาดว่า กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 กนง. ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2566 เป็น 3.0% จากเดิม 2.6% แตะระดับขอบบนของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1-3% จากแนวโน้มการปรับเพิ่มขึ้นของค่าไฟฟ้าเป็นสำคัญ โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงกว่ากรอบเป้าหมาย และคาดว่าจะปรับลงเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2566

Krungthai COMPASS ประเมินว่า ปัจจัยดังกล่าวจะหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ธปท.ต่อไป โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจขึ้นไปแตะระดับ 2.00% ในปี 2566 ทั้งนี้ กนง. อาจพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงครึ่งแรกของปี สะท้อนจากมุมมองของ กนง. ที่ประเมินว่า “การทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นการดำเนินนโยบายที่สอดคล้องกับทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและแนวโน้มเงินเฟ้อ”

ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวผ่านการส่งออกเป็นสำคัญ โดยการบริโภคภาคเอกชนและภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง บ่งชี้จากการปรับเพิ่มประมาณการของ กนง. ในปี 2566 ที่คาดว่าการบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวได้ที่ 3.4% จากเดิม 3.3% และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 22 ล้านคน จากเดิม 21 ล้านคน สอดคล้องกับมุมมองของ Krungthai COMPASS ที่คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะแตะระดับ 21.4 ล้านคน ในปี 2566 ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกมากกว่าที่คาด

กนง.มติเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ย 0.25%