กู้ซื้อ/สร้างบ้านประหยัดพลังงาน ธอส. เสิร์ฟดอกเบี้ยต่ำ 3 ปีแรกเฉลี่ย 3%

ธอส.

ธอส. เอาใจคนรักษ์สิ่งแวดล้อม ออกโปรดักต์ “สินเชื่อบ้านอยู่เย็น เป็นสุข” คิดดอกเบี้ยต่ำ 3 ปีแรกเฉลี่ย 3% ต่อปี ผ่อนนาน 40 ปี ยื่นกู้วันนี้ถึง 31 มี.ค.2566

วันที่ 15 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้ออกผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อบ้านอยู่เย็น เป็นสุข” ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร, เพื่อปลูกสร้างอาคาร, เพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร รวมถึงเพื่อต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร

นอกจากนี้ ผู้ที่มีสัญญาเงินกู้อยู่แล้ว สามารถกู้เพิ่มได้เพื่อปลูกสร้าง หรือ ต่อเติม / ขยาย / ซ่อมแซมอาคาร ทั้งยังสามารถกู้เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) แต่ต้องขอกู้พร้อมกับวัตถุประสงค์หลักของผลิตภัณฑ์นี้เท่านั้น

ทั้งนี้ ผู้กู้ต้องเป็นลูกค้ารายย่อยทั่วไป หรือเป็นลูกค้าสวัสดิการไม่มีเงินฝาก ซึ่งคุณสมบัติที่อยู่อาศัยต้องเข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้

1) ซื้อ / ปลูกสร้าง / ปรับปรุงที่อยู่อาศัยเพื่อให้มีระบบพลังงานทดแทน หรือระบบช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้า หรือซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการจัดสรรที่ธนาคารรับเป็นโครงการที่เข้าเงื่อนไขบ้านประหยัดพลังงาน

2) ซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการจัดสรรของ Developer ที่ธนาคารรับเป็นโครงการ และติดตั้ง Solar Roof กำลังไฟตั้งแต่ 2 กิโลวัตต์ขึ้นไป โดยเงื่อนไขของ Solar Roof ต้องระบุอยู่ในชุดสัญญาจะซื้อจะขาย ทั้งกรณีที่เป็นส่วนควบของที่อยู่อาศัย หรือเป็นรายการส่งเสริมการขาย

3) ปลูกสร้างที่อยู่อาศัยโดยใช้แบบบ้านรักษ์โลกของธนาคาร
โดยวงเงินให้กู้ จะเป็นไปตามเกณฑ์หลักประกัน และตามเกณฑ์รายได้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของธนาคาร

ขณะที่ระยะเวลาผ่อน ไม่น้อยกว่า 3 ปี และ ไม่เกิน 40 ปี โดยอายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้น กรณีข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่นๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี

สำหรับอัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 จะอยู่ที่ MRR – 3.15% ต่อปี, ปีที่ 2 อยู่ที่ MRR – 2.80% ต่อปี, ปีที่ 3 อยู่ที่ MRR – 2.15% ต่อปี และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา หากเป็นลูกค้าสวัสดิการ จะคิดที่ MRR – 1.00% ต่อปี ส่วนลูกค้ารายย่อยจะคิดที่ MRR – 0.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ = 4.56%, กรณีลูกค้ารายย่อย = 4.88%)

ทั้งนี้ ต้องยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. 2ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2566 อนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 31 มี.ค. 2566 (ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดโครงการก่อนกำหนด หากธนาคารให้สินเชื่อเต็มวงเงินของโครงการแล้ว)