นักวิเคราะห์กางสถิติ 1 เดือนหลังยุบสภา หุ้นไทยติดลบ 1.5-11% 

ตลาดหุ้น

ฝ่ายวิจัย “บล.กสิกรไทย” กางสถิติ 1 เดือนก่อนยุบสภา ตลาดหุ้นไทยติดลบ 5.7% และ 1 เดือนหลังยุบสภาติดลบกว่า 1.5-11% เหตุอำนาจจำกัดของรัฐบาลรักษาการ

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า คาดการเลือกตั้งทั่วไปในประเทศไทยจะเกิดขึ้นในวันที่ 7 พ.ค. 2566 ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจะยุบสภาในช่วงต้นเดือน มี.ค.นี้ ก่อนครบวาระของรัฐบาลในวันที่ 23 มี.ค. 2566 

และคาดจะมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 7 พ.ค. 2566 เรามองว่าเป็นเหตุการณ์ที่ปกติ เพราะระยะเวลาการยุบสภาเกิดขึ้นใกล้กับระยะเวลาที่รัฐบาลจะครบวาระ ดังนั้นเราจึงเห็น downside ที่จำกัดต่อดัชนี SET Index ในเวลานี้ 

ทั้งนี้ในอดีต SET Index เคยปรับลดลง 1.5-11% ในช่วง 1 เดือนหลังยุบสภาจากอำนาจที่จำกัดของรัฐบาลรักษาการและความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับรัฐบาลชุดใหม่และนโยบายในการบริหารประเทศ เราคาดว่ารัฐบาลชุดใหม่ที่เป็นการผสมผสานกันระหว่างพรรคการเมืองแค่ 2-3 พรรค จะเป็นรัฐบาลที่แข็งแกร่งและคาดจะส่งผลบวกต่อตลาด 

ในทางตรงข้ามรัฐบาลที่อ่อนแอที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างพรรคการเมืองมากกว่า 3 พรรคขึ้นไป จะส่งผลกระทบกลาง ๆ ต่อตลาด เพราะมีลักษณะคล้ายกับรัฐบาลชุดปัจจุบัน 

การประท้วงผลการเลือกตั้งคาดจะเป็นกรณีเลวร้ายที่สุดของเรา และคาดจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาด

ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนที่ 5.4% ในช่วง 3 เดือนก่อนเลือกตั้ง จากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ที่เน้นไปยังการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังการเลือกตั้ง 

นักลงทุนควรจับตามองการหาเสียงของแต่ละพรรค เพราะคาดจะเป็นนโยบายในการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดต่อไป จากการสำรวจของเราพบว่าพรรคการเมืองส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปยังการเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มรากหญ้า เช่น เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ นโยบายประกันรายได้ นโยบายพักชำระหนี้ เป็นต้น ซึ่งคาดจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในประเทศและนักลงทุน 

เราคาดว่า GDP ของไทยในปี 2566 จะเติบโตขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้นแข็งแกร่ง (เพิ่มขึ้นเป็น 25.5 ล้านคน ในปี 2566) การบริโภคของภาคเอกชนที่มากขึ้น (+3.3% YoOY) และการสะสมทุนถาวรเบื้องต้น (+2.3% YOY) 

ดังนั้น เราจึงคาดว่ากลุ่มการเงิน, กลุ่มสื่อ, กลุ่มค้าปลีกและกลุ่มไอซีทีจะทำผลงานได้ดีกว่าตลาด หนุนจากอุปสงค์ในประเทศที่ดีขึ้น

สถิติของ SET Index ในช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมาพบว่า

– 3 เดือนก่อนเลือกตั้ง ในปี 2544, 2548, 2550, 2554 และ 2562 เราพบว่าดัชนี SET Index มีผลตอบแทนเฉลี่ยเชิงบวกที่ 5.4% และ 3 กลุ่มหุ้นเด่นที่ผลตอบแทนสูงที่สุดในอดีต คือ กลุ่มการเงิน, ICT, สื่อ และพาณิชย์ 

– 1 เดือนก่อนยุบสภา ในปี 2543, 2549, 2554 และ 2556 เราพบว่าอัตราตอบแทนเฉลี่ยของ SET Index ติดลบที่ 5.7% อย่างไรก็ดี ในช่วง 1 เดือนก่อนเลือกตั้ง อัตราตอบแทนเฉลี่ยของ SET Index พลิกกลับมาอยู่ในเชิงบวกที่ 3.82% 

– 1 เดือนหลังเลือกตั้ง เราพบว่าผลตอบแทนเฉลี่ยของดัชนี SET Index อยู่ในเชิงบวกที่ 0.8% 

โดยหุ้นเด่นที่แนะนำคือ AEONTS, ADVANC, STEC, OSP และ CPALL อิงจากการได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง มีโมเมนตัมกำไรที่แข็งแกร่งในปี 2566 และมีอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมายของเรา (มากกว่า 5%)