มติชนเคาะปันผล 0.25 บาท/หุ้น กาง 3 แนวทางสร้างรายได้ปี’66 แตะ 825 ล้านบาท

บมจ.มติชน

มติชนประชุมผู้ถือหุ้น เคาะจ่ายปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น กาง 3 แนวทางสร้างรายได้ปี 2566 ขยายตัวแตะ 825 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566 ที่อาคารสำนักงาน บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นางสาวปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2566 ได้ชี้แจงผลการดำเนินงานรอบปี 2565 โดยผลประกอบการของบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีรายได้รวม 725.83 ล้านบาท กำไรรอบปี 69.74 ล้านบาท กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 0.38 บาทต่อหุ้น

คณะกรรมการได้อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น จากจำนวน 185,349,200 หุ้น ซึ่งปันผลคิดเป็นสัดส่วน 60.29% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ เพิ่มขึ้นจาก 40% เทียบกับรอบปี 2564 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการจ่ายปันผลของบริษัท

นางสาวปานบัวกล่าวว่า ช่วงการระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา บริษัทได้พยายามหารายได้เข้าบริษัทสูงขึ้น ทำให้ในปี 2564 มีตัวเลขการขายทรัพย์สินในระดับสูง ซึ่งเป็นเพราะช่วงโควิดจึงต้องเปลี่ยนสินทรัพย์เป็นเงินสด เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความไม่มั่นคงหรือไม่แน่นอน ส่งผลให้ปี 2563-2564 บริษัทเน้นจัดการสินทรัพย์ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ และเมื่อโควิดลดระดับปัญหาลง จะเห็นตัวเลขผลประกอบการจริง เพราะปีนี้เหลือการจัดการทรัพย์สินอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

สำหรับปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 825 ล้านบาท ถือเป็นเป้าหมายที่ขยับสูงขึ้น จากปัจจัยสนับสนุนคือ โควิดคลายตัวแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เกิดการเลือกตั้ง จึงน่าจะมีโอกาสในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ทำให้มีการเติบโตที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจจริง

นางสาวปานบัวกล่าวว่า ปัจจุบันมติชนยังมีรายได้จากสื่อสิ่งพิมพ์อย่างต่อเนื่อง แม้ไม่ใช่รายได้หลัก แต่ยังสามารถสร้างรายได้ทั้งจาก “ยอดขายหนังสือพิมพ์-นิตยสาร” ที่มีฐานคนอ่านอยู่ในระดับสูง และพ็อกเกตบุ๊กที่ยอดขายไม่ได้ปรับลดลงมากนัก และไตรมาสที่ผ่านมายังเห็นยอดขายสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามการฟื้นตัวของมหกรรมงานขายหนังสือที่กลับมาจัดได้ และการขายในช่องทางออนไลน์ รวมถึง “ยอดขายจากโฆษณา” ของหนังสือพิมพ์คิดเป็นสัดส่วน 20-22% ของรายได้จากโฆษณาทั้งหมด

โดยแม้ยอดขายหนังสือพิมพ์จะชะลอตัวลง แต่บริษัทได้จัดทำโครงการสนับสนุนการอ่านและยอดขายเพิ่มขึ้น ผ่านโครงการสังคมอุดมปัญญา ซึ่งที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์ถือว่ามีการทรานส์ฟอร์มสู่ออนไลน์สูงมากด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีแผนรองรับธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ไว้อยู่ อาทิ วางแผนขยายช่องทางการจัดจำหน่าย โดยการเชื่อมระหว่างผู้อ่านและผู้ขาย ที่ตอนนี้ยังขาดจุดวางขายอยู่มาก ส่วนนี้จะทยอยเติบโตและสร้างรายได้ต่อไป

นางสาวปานบัวกล่าวว่า สำหรับแผนดำเนินการและการปรับตัวแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1.พยายามบริหารสื่อสิ่งพิมพ์ 2.ผลักดันให้เข้าสู่โลกออนไลน์อย่างประสบความสำเร็จ และ 3.ทำกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดส่วนร่วมของผู้อ่านมากขึ้น อย่างเช่น การทำโพลความคิดเห็นต่าง ๆ หรือแคมเปญซีเกมส์ ซึ่งทุกส่วนจะผนวกไปด้วยกัน

อาทิ เพราะมีหัวหนังสือพิมพ์มติชน ทำให้มีการจัดสัมมนามติชน และมีคอนเทนต์ให้หนังสือพิมพ์และออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยการพัฒนาในยุคที่คนอ่านหนังสือพิมพ์น้อยลง คือ ต้องทำกิจกรรมให้มากขึ้น ซึ่งมติชนเดินหน้าในการทำกิจกรรมแบบจริงจังมากขึ้น และมองว่าเป็นส่วนที่ทำให้บริษัทผ่านยุคของการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมาได้