หุ้นไทยแกว่ง 1,560-1,580 จุด กลุ่ม Domestic play พยุงตลาด

ตลาดหุ้น

บล.กรุงศรีพัฒนสิน ประเมินภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัว 1,560-1,580 จุด ได้แรงหนุนหุ้นรายตัว กลุ่ม Domestic play ธีมเลือกตั้งไทย งบฯไตรมาส 1/66 โต พร้อมแรงซื้อหุ้นเข้าคำนวณ MSCI รอบใหม่ แต่ระวังความไม่แน่นอนปัญหาเพดานหนี้สหรัฐ สถานการณ์กลุ่มธนาคารสหรัฐ จะกดดันให้ดัชนีผันผวน

วันที่ 12 พฤษภาคม 2566 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี พัฒนสิน รายงานภาวะตลาดหุ้นไทยว่า วานนี้ดัชนี SET Index ลดลง 2 จุด (-0.14%) ปิดที่ระดับ 1,567 จุด จากแรงเทขายหุ้นที่ผลประกอบการออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดกดดันดัชนี อาทิ TRUE และ BCH

ส่วนแนวโน้มวันนี้ประเมิน SET แกว่งตัว 1,560-1,580 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากหุ้นรายตัว ได้แก่ กลุ่ม Domestic play ธีมการเลือกตั้งไทย, หุ้นงบฯไตรมาส 1/66 เติบโต และหุ้นเข้าคำนวณ MSCI รอบใหม่

อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนปัญหาเพดานหนี้สหรัฐ, ความกังวลสถานการณ์กลุ่มธนาคารของสหรัฐ รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงตามตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนและสหรัฐจะกดดันให้ดัชนีผันผวน

ประเด็นสำคัญคือ 1.กลุ่มค้าปลีก-ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี โดยวานนี้ ม.หอการค้าฯ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้นแตะระดับ 55 จาก 53.5 ในเดือน มี.ค. นับเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี 2 เดือน ถือเป็น Sentiment บวกโดยตรงต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก

เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นจะทำให้กล้าจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นเป็นบวกต่อยอดขายของผู้ประกอบการ อาทิ CPALL MAKRO CRC GLOBAL DOHOME

2.กลุ่มน้ำมัน-น้ำมันดิบลดลงกดดัน Sentiment ในช่วงสั้น โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.69 ดอลลาร์ (-2.3%) ปิดที่ 70.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 นักลงทุนยังกังวลกับดีมานด์ที่ชะลอตัว โดยเฉพาะหากสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ และยังถูกกดดันจากความกังวลเดิมที่สต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด รวมไปถึงตัวเลขการนำเข้าน้ำมันดิบของจีนที่ลดลง

3.ติดตามการเจรจาแก้ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐ, IMF เตือนอาจกระทบเศรษฐกิจโลก โดยโจ ไบเดน และประธานสภาผู้แทนฯ จะนัดหารือกันเพื่อแก้ปัญหาเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐกันอีกครั้งในวันนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังสหรัฐเร่งให้สภา ผ่านการเพิ่มเพดานหนี้ให้ได้โดยเร็วก่อนที่สหรัฐอาจผิดนัดชำระหนี้ตั้งแต่ 1 มิ.ย. 2566 ขณะที่ IMF เตือนปัญหาดังกล่าวอาจะสร้างความผันผวนให้เศรษฐกิจและระบบการเงินของโลก

กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy หุ้นที่ได้เข้าคำนวณ MSCI รอบใหม่ Global Standard ( MAKRO ) Global Small Cap (JMT, TIDLOR, SAPPE, SISB,TU)

และหุ้นแนวโน้มกำไรไตรมาส 2 ยังคงเติบโต BBL KTB TTB KBANK SCB และหุ้นธีมการเลือกตั้งไทย AMATA WHA ROJNA CPALL GLOBAL DOHOME STEC CK SIRI SC PR9

หุ้นแนะนำวันนี้คือ BDMS (ปิด 29.75 บาท ซื้อ/เป้า 37 บาท) BDMS ประกาศงบฯไตรมาส 1/66 ดีเกินคาด มีกำไรสุทธิ 3,470 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% QOQ และ 1% YOY ดีกว่าที่เราคาดไว้ 6.8% และดีกว่าที่ Consensus คาดไว้ 7%

และ BEM (ปิด 9.05 บาท ซื้อ/เป้า 11.50 บาท) มีกำไรสุทธิไตรมาส 1 ที่ 749 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% QOQ และ 123% YOY อาจอินไลน์กับที่เราคาดไว้ แต่ดีกว่าที่ Consensus คาด 29% เป็นผลจากจำนวนผู้โดยสารและจำนวนรถที่เข้าใช้บริการทางด่วนเพิ่มขึ้น