SAM สนองนโยบายรัฐ ลุยแก้หนี้บัตรเครดิต-บุคคล ชูดอกเบี้ย 3-5% ต่อปี

ธรัฐพร เตชะกิจขจร

“คลินิกแก้หนี้ by SAM” สนองนโยบายรัฐแก้ไขหนี้ในระบบ เสนอดอกเบี้ย 3-5% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุดถึง 10 ปี พร้อมโชว์ผลงานช่วยคนเป็นหนี้เสียบัตรเครดิต-สินเชื่อส่วนบุคคลไปแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาท ย้ำคนเป็นหนี้เสียอย่าปล่อยให้สายเกินแก้

วันที่ 18 ธันวาคม 2566 นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลหยิบยกเรื่องการแก้หนี้เป็นวาระแห่งชาติ SAM ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่ได้รับมอบหมายให้มีส่วนช่วยลดปัญหาหนี้ครัวเรือนของประเทศผ่าน “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” พร้อมตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้ของภาคประชาชนในระบบได้อย่างทันท่วงที

โดย “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” พร้อมช่วยเหลือลูกค้าที่เป็นหนี้เสียประเภทบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันและมีคุณสมบัติผ่านหลักเกณฑ์เข้าร่วม “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3-5% ต่อปี และระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด ถึง 10 ปี โดยมีทางเลือกการปรับโครงสร้างหนี้ เป็น 3 ทางเลือก คือ 1.ผ่อนชำระไม่เกิน 4 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี 2.ผ่อนชำระนานกว่า 4 ปี ไม่เกิน 7 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี 3.ผ่อนชำระนานกว่า 7 ปี ไม่เกิน 10 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี

สำหรับคุณสมบัติผู้สนใจสมัครเข้าร่วม “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” นั้น ต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ มีอายุไม่เกิน 70 ปี มียอดหนี้รวมกันไม่เกิน 2 ล้านบาท และเป็นหนี้เสียค้างชำระมากกว่า 120 วัน และเพื่อความรวดเร็วในการพิจารณาผลการสมัคร ขอให้ลูกค้าเตรียมเอกสารสำคัญประกอบการสมัคร ดังนี้ 1.เอกสารรายงานเครดิตบูโร 2.สำเนาบัตรประชาชน 3.สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 1 เดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน (กรณีผู้มีรายได้ประจำ)/รายการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 3 เดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ (กรณีอาชีพอิสระ)

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ในปี 2566 (ข้อมูล ณ เดือน พ.ย. 66) มีจำนวนลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 17,000 ราย หรือกว่า 43,000 บัญชี คิดเป็นภาระหนี้เงินต้นประมาณ 3,200 ล้านบาท และหากนับตั้งแต่เปิดโครงการในปี 2560 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีจำนวนลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการสะสมอยู่ที่ 52,000 ราย หรือคิดเป็น 146,000 บัญชี คิดเป็นภาระหนี้เงินต้นที่เข้าร่วมโครงการ รวมแล้วกว่า 10,000 ล้านบาท

นายธรัฐพรกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนที่เป็นวาระแห่งชาติ ถือเป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ รวมทั้งการเสริมสร้างความรู้ทางการเงินให้แก่ประชาชน เพื่อให้การแก้ไขหนี้ทำได้สำเร็จ และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้ขึ้นอีกในอนาคต อันเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับสังคมต่อไป ส่วนคนที่เป็นหนี้เอง ก็ไม่ควรละเลย ควรเริ่มต้นทันทีในการแก้ไขปัญหาหนี้เสียที่เผชิญอยู่ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า อย่ารอจนถูกฟ้องดำเนินคดี อายัดเงินเดือนหรือถูกยึดทรัพย์สิน ซึ่งจะสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นในอนาคต

“โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น. ที่ชั้น 4 ศูนย์การค้าดิ อเวนิว รัชโยธิน (โซนลิฟต์แก้ว) ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ (BTS สถานีรัชโยธิน) หรือสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com หรือแอดไลน์ @debtclinicbysam และ Facebook คลินิกแก้หนี้ by SAM หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ Call Center 1443