ปลัด มท. เผยผลลงทะเบียนหนี้นอกระบบ สรุปลงทะเบียนหนี้นอกระบบ วันแรกของปี 2567 ประชาชนลงทะเบียนแล้ว 114,653 ราย มูลหนี้ 7,400 ล้านบาท ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 937 ราย เช็กจังหวัดไหนลงทะเบียนมากสุด-น้อยสุด 5 อันดับแรก
วันที่ 2 มกราคม 2567 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นวันแรกของปี พุทธศักราช 2567 เป็นวันที่ 32 นับตั้งแต่เปิดลงทะเบียน เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นมา โดยจากข้อมูลของสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เมื่อเวลา 15.30 น. มีมูลหนี้รวม 7,400.039 ล้านบาท ประชาชนลงทะเบียนแล้ว 114,653 ราย
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- กระทรวงเกษตรฯ ปลดล็อกการนำเข้าโคเนื้อ-กระบือจากประเทศเมียนมา
- เริ่มวันนี้ ฝากสลากออมสินพิเศษ 1 ปี งวดนี้แจกทองคำแท่ง 10 กิโล
โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 99,380 ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 15,273 ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ 84,834 ราย
จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
- กรุงเทพมหานคร ยังคงมากที่สุด มีผู้ลงทะเบียน 7,162 ราย เจ้าหนี้ 6,252 ราย มูลหนี้ 624.107 ล้านบาท
- จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน 4,873 ราย เจ้าหนี้ 4,199 ราย มูลหนี้ 314.288 ล้านบาท
- จังหวัดสงขลา มีผู้ลงทะเบียน 4,507 ราย เจ้าหนี้ 3,320 ราย มูลหนี้ 290.784 ล้านบาท
- จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน 4,381 ราย เจ้าหนี้ 2,868 ราย มูลหนี้ 337.452 ล้านบาท
- จังหวัดขอนแก่น มีผู้ลงทะเบียน 3,046 ราย เจ้าหนี้ 2,525 ราย มูลหนี้ 232.679 ล้านบาท
จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
- จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียน 169 ราย เจ้าหนี้ 138 ราย มูลหนี้ 8.830 ล้านบาท
- จังหวัดระนอง มีผู้ลงทะเบียน 236 ราย เจ้าหนี้ 161 ราย มูลหนี้ 17.594 ล้านบาท
- จังหวัดสมุทรสงคราม มีผู้ลงทะเบียน 306 ราย เจ้าหนี้ 220 ราย มูลหนี้ 9.886 ล้านบาท
- จังหวัดตราด มีผู้ลงทะเบียน 379 ราย เจ้าหนี้ 261 ราย มูลหนี้ 15.068 ล้านบาท
- จังหวัดสิงห์บุรี มีผู้ลงทะเบียน 410 ราย เจ้าหนี้ 274 ราย มูลหนี้ 19.645 ล้านบาท
ปลัดมหาดไทย กล่าวว่า สำหรับข้อมูลการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบทั่วประเทศ พบว่ามีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว 4,361 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 937 ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย 260.549 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย 127.571 ล้านบาท มูลหนี้ลดลง 132.977 ล้านบาท
ซึ่งจังหวัดที่สามารถนำลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้มากที่สุดยังคงเป็นจังหวัดนครสวรรค์ โดยมีลูกหนี้ที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย 1,136 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 23 ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย 89.457 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย 1.827 ล้านบาท ทำให้มูลหนี้ของพี่น้องประชาชนในจังหวัด ลดลงมากถึง 87.630 ล้านบาท
สำหรับกรณีที่ไม่ได้รับความร่วมมือกระทั่งไม่สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยได้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการส่งสำนวนแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่ ซึ่งในขณะนี้ มีการดำเนินคดีไปแล้ว 25 รายทั้งประเทศ ซึ่งจังหวัดที่มีการดำเนินคดีมากที่สุด คือ จังหวัดระนอง ดำเนินคดีแล้ว 6 คดี
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ รัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติที่มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการระดมสรรพกำลัง โดยมีกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการหลอมรวมพลังความร่วมมือแก้ไขอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกกลไกของกระทรวงมหาดไทยที่มีในระดับพื้นที่ลงพื้นที่แก้ไขอย่างจริงจัง แบบ Case by Case
โดยมีผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องถิ่น คือ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มี “นายอำเภอ” เป็นผู้นำการบูรณาการในระดับอำเภอ รวมไปถึง “ผู้ว่าราชการจังหวัด” เป็นผู้นำการบูรณาการในระดับจังหวัด
ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้เข้าไปใช้หนี้ให้ แต่จะเป็นตัวกลางให้ลูกหนี้กับเจ้าหนี้มาพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยกันว่า ในระยะเวลาที่ผ่านมาลูกหนี้ได้จ่ายดอกไปเกินจำนวนเงินต้นแล้วหรือไม่ ถ้าลูกนี้ได้จ่ายเกินดอกเบี้ยเกินจำนวนเงินต้นไปแล้วจะยุติหนี้กันไปได้หรือไม่
หรือว่าหากยังไม่ครบ ทางรัฐบาลก็จะมีธนาคารของรัฐ ทั้งธนาคารออมสิน หรือแม้แต่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้ามาช่วยดูแล เพื่อให้ลูกหนี้เปลี่ยนสภาพจากการเป็นลูกหนี้นอกระบบเป็นลูกหนี้ในระบบตามกฎหมาย จ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่เป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำเป็นพิเศษอีกประการหนึ่ง คือต้องดูแลความปลอดภัยให้กับลูกหนี้ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการอยู่แล้วอย่างต่อเนื่องด้วย “ทีมแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ” ที่นำโดยฝ่ายปกครองได้มีการประสานบูรณาการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่เก็บข้อมูล หาข่าว ติดตาม และให้ความคุ้มครองความปลอดภัยแก่ลูกหนี้ พร้อมทั้งการอำนวยความสะดวกแก่ลูกหนี้ ทั้งการลงทะเบียนหนี้นอกระบบ และการเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย
นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยมิได้มองแค่ในส่วนของการแก้ไขหนี้เพียงอย่างเดียว เพราะมันเป็นเสมือนยาฝรั่ง ที่แก้ไขเพียงเฉพาะหน้า และมีโอกาสกลับไปกู้ยืมเงินอีก แต่เรายังมองถึงการแก้ไขปัญหาในระยะยาว คือ มิติยาไทย โดยการทำให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้น ส่งเสริมความเข้มแข็งในการดำรงชีพ การหารายได้ ลดรายจ่าย สร้างความมั่นคงทางอาหาร อาทิ การเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เลี้ยงกบ
และการน้อมนำพระราชดำริเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ด้วยการปลูกพืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร ไว้บริเวณรอบบ้าน เพื่อเป็นอาหารประจำครัวเรือน และรวมกลุ่มในการที่จะแปรรูปผลผลิต ทำการตลาดต่อยอด สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องทำคู่ขนานไป
โดยมีกลไกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าไปช่วยยกระดับ ทักษะอาชีพ ทักษะฝีมือ เพื่อที่จะมีรายได้จากหลายทางมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้พี่น้องประชาชนที่เคยเป็นหนี้สินนอกระบบกลับมาสู่วงจรแห่งความทุกข์ยากนี้อีกตลอดไปอย่างยั่งยืน
“กระทรวงมหาดไทย ยังคงเปิดรับลงทะเบียนพี่น้องประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ ทั้งทางออนไลน์ที่ https://debt.dopa.go.th หรือวอร์กอินได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขตทั่วประเทศ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนในพื้นที่” นายสุทธิพงษ์ กล่าว