เปิดชื่อ 20 บริษัท ครบดีลหุ้นกู้ 1.4 แสนล้าน ANAN-MQDC พร้อมจ่าย 100%

หุ้นกู้-อสังหาฯ

เปิดรายชื่อ 20 บริษัท ครบดีลหุ้นกู้ไตรมาส 1/67 มูลค่า 1.4 แสนล้าน “ทรู มูฟ เอช” มากที่สุดเกือบ 2 หมื่นล้าน STARK โผล่ครบดีล 3.9 พันล้าน “MQDC-ANAN” ยืนยันพร้อมจ่ายหุ้นกู้ตามกำหนด 100%

วันที่ 17 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) รายงานไว้เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2567 ว่า ในปี 2567 ประมาณการยอดการออกหุ้นกู้ จะอยู่ที่ 9 แสนล้านบาท ไปจนถึงแตะระดับ 1 ล้านล้านบาท โดยมีหุ้นกู้ครบกำหนดอายุจำนวน 890,908 ล้านบาท มูลค่าประมาณ 791,322 ล้านบาท สัดส่วน 90% เป็นหุ้นกู้ระดับลงทุน (Investment Grade) และอีก 10% มูลค่า 99,586 ล้านบาท เป็นหุ้นกู้เสี่ยงสูง (High Yield)

โดยปีนี้คาดว่าจะมีการโรลโอเวอร์ประมาณ 60% หรือมีมูลค่าราว 5-5.5 แสนล้านบาท และคาดว่าจะมีการออกหุ้นกู้ใหม่เพิ่มเติมอีก 4-4.5 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ThaiBMA รายงานว่า หุ้นกู้ในกลุ่ม Investment Grade ไม่น่ามีปัญหา สามารถระดมทุนออกหุ้นกู้ใหม่ได้ บางบริษัทขนาดใหญ่ เช่น บริษัทในเครือ ปตท. อาจจะไม่ออกก็เป็นไปได้ เพราะว่าตอนนี้ดอกเบี้ยค้างอยู่ในระดับสูง แต่แนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยมีโอกาสจะลดลง บริษัทขนาดใหญ่เหล่านี้ก็อาจจะรอดูจังหวะดอกเบี้ยลดลงก่อน ประกอบกับมีทางเลือกจากสินเชื่อธนาคาร ที่ตอนนี้ทราบว่าบางบริษัทขนาดใหญ่ได้รับดอกเบี้ยถูกกว่าการออกหุ้นกู้ด้วยซ้ำ ส่วนหุ้นกู้ไฮยีลด์บอนด์คงต้องประเมินและติดตามเป็นรายบริษัท

ทั้งนี้สำหรับเซ็กเตอร์ที่จะมีหุ้นกู้ครบกำหนดมากที่สุดในปีนี้ ประกอบด้วย 1.กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มูลค่า 157,449 ล้านบาท 2.กลุ่มไฟแนนซ์ มูลค่า 152,730 ล้านบาท 3.พลังงาน มูลค่า 127,395 ล้านบาท 4.ค้าปลีก มูลค่า 83,216 ล้านบาท 5.ไอซีที มูลค่า 78,130 ล้านบาท

Advertisment

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้รวบรวมข้อมูลหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในไตรมาส 1/2567 อ้างอิงจากข้อมูล ThaiBMA โดยมีทั้งหมด 20 บริษัท มูลค่ารวม 141,852 ล้านบาท ประกอบด้วย

      1. ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น (TUC) มูลค่า 19,037.70 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง A+
      2. ซีพี ออลล์ (CPALL) มูลค่า 15,313.70 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง A+
      3. ปตท. (PTT) มูลค่า 14,967.20 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง AAA
      4. ไทยเบฟเวอเรจ (TBEV) มูลค่า 11,300 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง AA
      5. แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) มูลค่า 9,703.60 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง Non-rated
      6. ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) มูลค่า 7,987.56 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง A
      7. ไทยออยล์ (TOP) มูลค่า 7,000 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง A+
      8. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นเนล (MINT) มูลค่า 6,800 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง A
      9. เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) มูลค่า 6,386 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง BBB+
      10. เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) มูลค่า 5,000 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง AA
      11. โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) (TLT) มูลค่า 4,800 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง AAA
      12. เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) มูลค่า 4,000 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง A
      13. บัตรกรุงไทย (KTC) มูลค่า 4,000 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง AA-
      14. สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) มูลค่า 4,000 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง BBB+
      15. ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) มูลค่า 4,000 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง A-
      16. สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) มูลค่า 3,934.30 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง Non-rated
      17. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) มูลค่า 3,825.30 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง BB+
      18. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) มูลค่า 3,550 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง A+
      19. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) มูลค่า 3,246.90 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง BBB+
      20. บัตรกรุงศรีอุธยา (KCC) มูลค่า 3,000 ล้านบาท เครดิตเรตติ้ง AAA

อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวช่วงนี้มีความกังวลอย่างมากต่อการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ที่มีความถี่มากขึ้น โดยข้อมูลล่าสุดทาง ThaiBMA รายงานว่า มีมูลค่าคงค้างหุ้นกู้ที่มีปัญหา ณ สิ้นปี 2566 จำนวนทั้งสิ้น 39,412 ล้านบาท (ไม่รวมหุ้นกู้ที่อยู่ในการฟื้นฟูกิจการ มูลค่า 73,057 ล้านบาท) โดยแยกเป็นหุ้นกู้ที่มีการผิดนัดชำระหนี้ (Default) มูลค่ารวม 22,295 ล้านบาท จำนวน 7 บริษัท เฉพาะหุ้นกู้ที่มีการผิดนัดชำระหนี้ในปีที่ผ่านมา มีจำนวน 5 บริษัท มูลค่าทั้งสิ้น 16,363 ล้านบาท

ส่วนกรณี บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ตอนนี้ยังไม่ได้ผิดนัดชำระหนี้ โดยจะมีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทุกรุ่นในวันที่ 17 ม.ค. 2567 เพื่ออนุมัติใน 2 วาระคือ 1.พิจารณาผ่อนผันการดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (DE) โดยข้อกำหนดของ ITD อยู่ที่ 3 : 1 ซึ่งตอนนี้เริ่มปริ่ม ประกอบกับช่วงที่ผ่านมามีการกู้เงินธนาคารเพื่อเสริมสภาพคล่องไปด้วย และ 2.ขอยืดหนี้ออกไปอีก 2 ปีและปรับเพิ่มดอกเบี้ยจ่าย 0.75%

อย่างไรก็ตาม ANAN และ MQDC บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ไม่รอช้าที่จะออกมายืนยันความพร้อมในการเตรียมเงินรองรับสำหรับการจ่ายคืนหุ้นกู้ตามกำหนด 100%

Advertisment

ANAN-MQDC จ่ายหุ้นกู้ครบดีลตามกำหนด 100%

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการชำระหุ้นกู้คืนตามกำหนด 100% ให้นักลงทุนทุกท่านในวันที่ 15 มกราคม 2567 มูลค่า 3,826 ล้านบาท และพร้อมชำระคืนหุ้นกู้รอบถัดไปตามกำหนดในเดือนกรกฎาคม 2567 มูลค่า 3,231 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้ง 2 ดีล 7,057 ล้านบาท

โดยปีที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินงานภายใต้จุดยืน URBAN LIVING SOLUTIONS เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งช่วยในการแก้ปัญหาของคนเมือง พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองให้ดีขึ้น โดยสามารถบรรลุเป้าหมายตามแผนงานที่วางไว้ ทั้งในเรื่องยอดขาย (Pre-Sales) ที่เติบโตขึ้น 11% หรือ 19,535 ล้านบาท ยอดโอนที่สามารถเติบโตขึ้น 10% หรือ 13,186 ล้านบาท และยอดขายตลาดต่างประเทศ (INTER MARKET) เติบโตขึ้น 102% หรือ 6,989 ล้านบาท

รวมถึงการส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุดให้ลูกค้า ควบคู่ไปกับการพัฒนามาตรฐานของสินค้าและการบริการหลังการขายเพื่อตอบโจทย์ความพึงพอใจในการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของคนเมืองให้มากที่สุดตามมาตรฐาน ANANDA SURE

“บริษัทขอขอบคุณลูกค้า นักลงทุน และผู้ถือหุ้นทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นในความสามารถในการบริหารงานของบริษัท ซึ่งในปี 2567 บริษัทยังคงเดินหน้าลุยตามแผนธุรกิจใหม่ที่วางไว้ทั้ง New Projects New Businesses และ New Global Partners”

นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า บริษัทได้จัดเตรียมเงินสดไว้เพื่อชำระหุ้นกู้ตามกำหนดชำระให้ผู้ถือหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนมกราคม 2567 โดยจะครบกำหนดในวันที่ 22 มกราคม 2567 เป็นจำนวน 4,100 ล้านบาท และวันที่ 29 มกราคม 2567 เป็นจำนวน 5,604 ล้านบาท รวมมูลค่า 9,704 ล้านบาท

โดยบริษัทขอยืนยันว่าบริษัทยังคงดำเนินกิจการเป็นอย่างดี โครงการที่เป็นโครงการใหญ่และเป็นโครงการ flagship ของ MQDC อย่าง The Forestias นั้นจะเสร็จสิ้นในปี 2567 นี้ และจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ต้นปีอย่างต่อเนื่อง