หุ้นไทยขึ้นต่อ 1,375-1,395 จุด ราคาน้ำมันดิบพุ่ง

หุ้นไทย

บล.กรุงศรีพัฒนสินฯ ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัว 1,375-1,395 จุด ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นแรง หลังสต๊อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินสหรัฐลดลงเกินคาด

วันที่ 14 มีนาคม 2567 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีพัฒนสินฯ รายงานว่า ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index เพิ่มขึ้น 5 จุด (+0.35%) ปิดที่ระดับ 1,385 จุด นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มน้ำมัน โรงกลั่น และปิโตรฯ ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดฟิวส์เจอร์ที่เพิ่มขึ้นและคาดหวังผลประกอบการของกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรฯ พลิกเป็นบวกในไตรมาส 1/2567

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ประเมิน SET แกว่งตัว 1,375-1,395 จุด โดยแม้ดัชนีจะได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นแรง หลังสต๊อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินสหรัฐลดลงเกินคาด อย่างไรก็ตามคาดว่าดัชนีจะสลับอ่อนตัวลงจากแรงกดดัน ทิศทางถึง Fund flow ต่างชาติที่ไม่ชัดเจน รวมถึงแรงขายลดความเสี่ยงตามสัญญาณเทคนิค ดังนั้นจึงยังคงแนะนำเลือกซื้อเน้นหุ้นรายตัวต่อไป

ประเด็นสำคัญวันนี้ 1.กลุ่มน้ำมันน้ำมันดิบบวกแรงหลังสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง ส่วนทางกับที่ตลาดคาด โดยราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 2.16 เหรียญ (+2.78%) ปิดที่ระดับ 79.72 เหรียญ/บาร์เรล รับข่าว EIA รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล ขณะเดียวกันสต๊อกน้ำมันเบนซินลดลงมากถึง 5.7 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลงเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล

2.ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐยังไม่จบคืนนี้ติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ก.พ. โมเมนตัมรวมยังอยู่ในทิศทางลง มองเป็นบวกกับตลาด โดย Consensus คาด Headline PPI จะทรงตัวที่ระดับ 0.9% YOY และคาดเพิ่มขึ้น 0.3% MOM เท่ากับเดือน ม.ค. ส่วน Core CPI คาดลดลงสู่ระดับ 1.9% YOY จาก 2% YOY ในเดือน ม.ค. และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% MOM ลดลงจากที่เพิ่มขึ้น 0.5% MOM ในเดือน ม.ค.

3.สัปดาห์หน้าคือสัปดาห์แห่งการประชุมของธนาคารกลางทั่วโลก โฟกัสหลักอยู่ที่ FED Meeting โดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ), ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะจัดประชุมในสับดาห์หน้า นักลงทุนส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่ FED Meetings ในช่วงวันที่ 20-21 มี.ค.นี้ แม้ตลาดจะเชื่อมั่นเกิน 90% ว่า FED คงดอกเบี้ยที่ 5.25-5.5% แต่รอบนี้จะมี FED Dot plot ทำให้เห็นสัญญาณและช่วงเวลาที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ย อาจส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนในสัปดาห์หน้าและสัปดาห์ถัดไป