ยูโอบี คาดจีดีพีไทยโต 2.8% ชูจัดพอร์ตลงทุนรับมือความผันผวน

UOB Investment ยูโอบี

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2567 ขยายตัว 2.8% แรงหนุนภาคท่องเที่ยว-การบริโภค-ใช้จ่ายภาครัฐ แนะนักลงทุนจัดพอร์ตลงทุน “Multi-asset-ตราสารหนี้คุณภาพดี” พร้อมกระจายความเสี่ยงในหลายสินทรัพย์

วันที่ 8 พฤษภาคม 2567 นายเอ็นริโก ทานูวิดจายา นักเศรษฐศาสตร์ Global Economics and Market Research ธนาคารยูโอบี กล่าวว่า ขณะที่เรากำลังเข้าสู่ช่วงปลายไตรมาสที่ 2 ปีนี้เป็นปีที่ท้าทายสำหรับนักลงทุนอย่างมาก จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความขัดแย้งทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐ และจีนที่ได้สร้างผลกระทบต่อการลงทุน ธนาคารยูโอบี ประเทศไทยจึงแนะนำให้นักลงทุนพิจารณาลงทุนในหุ้นปันผลเพื่อสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ ธนาคารยังแนะนำให้สร้างพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่งผ่านการลงทุนกลุ่ม Core Investment ด้วยกลยุทธ์ Multi-asset ที่กระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายตามภูมิภาค อุตสาหกรรม และสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์วัตถุประสงค์ทางการเงินในระยะยาว

นอกจากนี้ การสัมมนายังเจาะลึก ไปยังกลยุทธ์การลงทุนสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ไปที่อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพระดับโลก (global healthcare), เอเชีย ไม่รวมญี่ปุ่น และอาเซียน เพื่อสร้างเสถียรภาพให้พอร์ตในระหว่างที่ตลาดผันผวน

สำหรับเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะขยายตัวที่ 2.8% ในปี 2567 โดยได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยว การบริโภคภาคครัวเรือน และการใช้จ่ายภาครัฐ แต่ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจจะชี้ให้เห็นถึงกิจกรรมในประเทศที่ชะลอตัวลง แต่การฟื้นตัวของต่างประเทศยังเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทย

Advertisment

“ด้วยการฟื้นตัวของการส่งออกสินค้า ค่าใช้จ่ายภาครัฐ และมาตรการกระตุ้นทางการคลัง ธนาคารยูโอบีคาดการณ์การเติบโตของจีดีพี 2.8% ในปี 2567 และ 3.0% ในปี 2568 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลัก ได้แก่ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศอย่างต่อเนื่อง การฟื้นตัวของการส่งออกภาคอุตสาหกรรม และอุปสงค์ในประเทศที่มีเสถียรภาพ ควบคู่ไปกับการจับจ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น”

เอ็นริโก ทานูวิดจายา

กลยุทธ์เพื่อสร้างพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่ง

นายเอเบล ลิม Head of Wealth Management Advisory and Strategy กลุ่มธนาคารยูโอบี กล่าวว่า เนื่องจากตลาดมีความอ่อนไหวต่อดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางอัตราการเติบโตและการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่แตกต่างกัน การสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอผ่านการลงทุนในหุ้นปันผลจึงเป็นสิ่งสำคัญ

นอกจากนี้ ยังแนะนำการลงทุนหลัก เช่น กลยุทธ์ Multi-asset และตราสารหนี้คุณภาพดี (Investment Grade) ที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวลงช้า การกระจายความเสี่ยงในหลายสินทรัพย์ ภูมิภาค และอุตสาหกรรมต่าง ๆ สามารถช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน และเน้นย้ำถึงประโยชน์ของการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุยาวขึ้นในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้

ในส่วนของ Top Ideas นั้น นายเอเบล ได้แนะนำ Global Healthcare สำหรับลูกค้าที่สนใจลงทุนในหุ้น เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีลักษณะ defensive และมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว ซึ่งได้รับแรงหนุนจากสังคมผู้สูงอายุและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

Advertisment

และแม้จะมีความท้าทายในระยะสั้นในภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) / อาเซียน / จีน แต่นายเอเบลยังคงมีมุมมองเชิงบวกในระยะกลาง เนื่องจากการบริโภคในภูมิภาคที่ฟื้นตัวและมูลค่าหุ้นในกลุ่มนี้ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ

ความล้ำหน้าทางดิจิทัลและโซลูชั่นการจัดการความมั่งคั่ง

นายกิดอน เจอโรม เคสเซล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์เงินฝากและบริหารการลงทุนบุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของธนาคารยูโอบีในการผสานความเชี่ยวชาญของมนุษย์เข้ากับความล้ำหน้าของดิจิทัลเพื่อมอบบริการเฉพาะบุคคล เขายังได้แนะนำเครื่องมือใหม่ที่จะช่วยลูกค้าในการสร้างพอร์ตโฟลิโอการลงทุนส่วนบุคคลที่เรียกว่า My Wealth Planner

“เพื่อช่วยให้ลูกค้าเข้าใจสถานการณ์ทางการเงินในปัจจุบัน เพื่อเป็นรากฐานสำหรับการลงทุนที่ยั่งยืนได้ดีขึ้น เครื่องมือ My Wealth Planner จะสร้างกรอบการลงทุนที่สามารถพาลูกค้าให้บรรลุวัตถุประสงค์การลงทุนของตนได้

ข้อมูลลูกค้าทั้งหมดจะถูกรวบรวมและประมวลผลโดย My Wealth Planner ซึ่งจะเข้าใจโปรไฟล์ความเสี่ยงในการลงทุนและจัดสรรกลยุทธ์การลงทุนในกองทุนและการประกันภัย เครื่องมือนี้ยังทำให้การลงทุนเป็นเรื่องที่ปลอดภัยและง่ายขึ้น ทั้งยังคอยติดตามความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอ”

นายกิดอน กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อพูดถึงฟีเจอร์ Wealth ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวใน UOB TMRW ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อ-ขาย-สับเปลี่ยนกองทุนรวมได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถจัดการความมั่งคั่งผ่านโทรศัพท์มือถือได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว นักลงทุนจะสามารถเข้าถึงกองทุนต่างประเทศได้โดยตรง ทำให้สามารถลงทุนโดยตรงในกองทุนรวมที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศจากบริษัทจัดการกองทุนที่มีชื่อเสียงถึง 14 แห่ง อาทิ Blackrock, PIMCO, JPMorgan และ Fidelity

เพื่อลดความเสี่ยงของเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด นักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่ยอมรับได้และกระจายพอร์ตการลงทุนให้มีความหลากหลาย ผ่านเครื่องมือการลงทุนที่หลากหลายและผลิตภัณฑ์การลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

ทีมที่ปรึกษาลูกค้าและผู้เชี่ยวชาญของยูโอบี จะให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพโดยพิจารณาจากวัตถุประสงค์ทางการเงินสำหรับนักลงทุนรายบุคคล ผู้ลงทุนควรตรวจสอบให้แน่ใจเสมอว่า เข้าใจสิ่งที่กำลังลงทุนและได้คำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อนตัดสินใจลงทุน