นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นในวันที่ 18 พ.ค.61 ดัชนีฯ แกว่งตัวแดนบวกสลับแดนลบในกรอบแคบๆ ถึงแม้ว่าตลาดยังถูกกดดันจากปัจจัยเรื่องของบอนด์ยีลด์ที่ปรับตัวขึ้นอยู่ในระดับ 3.12% ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบ 7 ปี น่าจะยังกระตุ้นให้เงินทุนต่างชาติไหลออก แต่ว่าตลาดหุ้นไทยยังได้รับปัจจัยบวกหนุนคือราคาหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวสูงขึ้น และ TRUE ไม่เข้าร่วมการประมูลแข่งขันคลื่นรอบใหม่ ทำให้หุ้นกลุ่มสื่อสารปรับตัวขึ้นหนุนตลาดได้ ดันดัชนีวันนี้ปิดตลาดที่ 1,754.17 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด หรือ +0.17% ขณะที่มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 60,169.03 ล้านบาท
สำหรับทิศทางการลงทุนในสัปดาห์หน้า (21-25 พ.ค.61) นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ ประเมินว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัว Sideway อาจจะมีความเสี่ยงจากการปรับตัวลงของเงินทุนต่างชาติไหลออกกดดันตลาด โดยต้องติดตามคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ส.และ ส.ว.ในวันที่ 23 พ.ค.61 และตัวเลขจีดีพีและตัวเลขส่งออกของไทยในวันจันทร์ที่ 21 พ.ค.61 ที่จะถึงนี้ มองกรอบดัชนีฯเคลื่อนไหวบริเวณระดับแนวรับที่ 1,745-1,750 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,760-1,765 จุด
อย่างไรก็ตามกลยุทธ์การลงทุนหารับความเสี่ยงได้สูง “เก็งกำไร” ในหุ้นที่รับประโยชน์จาก พ.ร.บ.EEC ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยแนวโน้มการลงทุนน่าจะเริ่มดีขึ้น และหุ้นที่น่าจะมีการปรับประมาณการขึ้นและมีแนวโน้มเชิงบวกในอนาคต ได้แก่ CK-PCSGH
